
• รูปแบบและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม


การเดินทางในครั้งนี้ดูเหมือนจะไม่มีอะไรตื่นเต้นมากนัก หรืออาจเป็นเพราะว่าช่วงหลังๆ มานี้ ได้มีโอกาสมาเยือนที่นี่บ่อยครั้งมากขึ้น โดยเฉพาะปีนี้อย่างน้อยก็มีโอกาสได้ไปเยือนสนามทดสอบท่ามกลางหิมะที่เมืองฮ็อกไกโดมาเมื่อเดือนเมษายนนี่เอง เลยทำให้รู้สึกว่าสบายๆ แต่หากสิ่งที่กำลังรอคอยอยู่นั้นกลับไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ดังนั้นจึงอยากจะแบ่งปันเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้ออกเป็น 3 ตอน เพื่อให้ท่านผู้อ่านสมาชิกของ 4x4Special ได้ลงในรายละเอียดและรู้จักกับมาสด้ามากยิ่งขึ้น โดยตอนแรกจะเป็นการพาท่านผู้อ่านมารู้จักเมืองฟูกุโอกะและเมืองฮิโรชิมา ให้มากขึ้น หากว่าวันใดที่มีโอกาสได้มาเยือนแล้วจะได้ประทับใจมากยิ่งขึ้น
จุดมุ่งหมายหลักของการเดินทางในครั้งนี้ คือ การมาสัมผัสเทคโนโลยีการใหม่ล่าสุดของมาสด้า การมาทดลองขับรถอเนกประสงค์คันใหม่ล่าสุด นั่นคือ Mazda CX-8 และการเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ณ โรงงานยูจินา โดยมาสด้าชวนสื่อมวลชนจากทั่วโลก รวมทั้งสื่อมวลชนไทยมาร่วมงานในครั้งนี้ ภายใต้ชื่องาน Mazda Pan Pacific Forum 2018 ณ เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ 28 - 31 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา


จุดเริ่มต้นการเดินทาง
การเดินทางในครั้งนี้ออกจากกรุงเทพฯไปยังสนามบินเมืองฟูกุโอกะ Fukuoka หลังจากนั้นก็นั่งรถบัสไปยังเมืองโคกุระ Kokura เพื่อเข้าพักที่โรงแรม Rihga Royal Kokura และในวันรุ่งขึ้นนำคณะเดินทางไปยังสนามทดสอบ Mine Circuit เพื่อสัมผัสเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของมาสด้า SKYACTIV-X และเทคโนโลยีแห่งอนาคตของมาสด้าในเจนเนอร์เรชั่นที่ 7th ซึ่งจะอยู่ในรถยนต์มาสด้าหลากหลายรุ่นในอนาคต หลังจากนั้นจะนำคณะขึ้นรถบัสต่อไปยังเมืองฮิโรชิมา วันรุ่งขึ้นเดินทางไปยังสำนักงานใหญ่มาสด้า เพื่อเยี่ยมชมเทคโนโลยีการผลิตรถยนต์ที่โรงงานมาสด้า สำนักงานใหญ่ และทอสอบเจ้า CX-8 หลังจากนั้นขึ้นรถบัสเยี่ยมชมสถานที่อันศักดิ์สิทธ์คูเมืองฮิโรชิม นั่นคือ วัดมิยาจิมา วันกลับจับรถไฟความเร็วสูงกลับมายังเมืองฟูกุโอกะ และเดินทางกลับสู่ประเทศไทย


หลังจากเช็คอินเรียบร้อยที่เค้าเตอร์การบินไทยเที่ยวบินที่ TG 648 ก็ได้เวลาเดินทางช่วงเที่ยงคืนกว่าๆ เพื่อไปลงที่เมืองฟูกุโอกะ ถึงที่นั่นประมาณ 8 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น พร้อมๆกับสายฝนที่โปรยปรายเพิ่มความชุ่มฉ่ำท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย เมืองฟูกุโอกะแห่งนี้เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของเกาะคิวชู Kyushu และใหญ่เป็นอันดับ 8 ของประเทศญี่ปุ่นด้วย ฟูกุโอกะเป็นเมืองท่าที่สำคัญแห่งหนึ่งของญี่ปุ่นมานานหลายร้อยปี เพราะว่าตั้งอยู่ใกล้กับเขตแผ่นดินใหญ่ที่สุด (อยู่ใกล้กับเมืองโซลของเกาหลีมากกว่าเกียวโต) จึงถูกเลือกเป็นจุดยกพลขึ้นบกของชาวมองโกลที่ต้องการจะมายึดญี่ปุ่นเมื่อประมาณ 1,300 ปีก่อน ตัวเมืองฟูกุโอกะทุกวันนี้เป็นผลจากการรวมกันของเมืองท่าเก่าแก่ที่ชื่อว่าฮากาตะ Hakata รวมกับเมืองรอบปราสาทฟูกุโอกะ โดยฮากาตะยังคงเป็นชื่อเขตหนึ่งของฟูกุโอกะ และยังเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟสายหลักอีกด้วย


ถึงแม้เมืองแห่งนี้จะเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่ และมีความเจริญอย่างครบครันก็ตาม แต่ก็ยังมีบรรยากาศที่ดูสบายๆ ไม่อึดอัดเหมือนกับเมืองอื่นๆ ของญี่ปุ่น ด้วยระบบการขนส่งที่ดี ถนนหนทางที่กว้างขวาง ความสะอาด ความปลอดภัยของเมือง และความเป็นมิตรของผู้คนที่นี่ จนทำให้ติดหนึ่งในเมืองที่น่าอยู่มากที่สุดในโลกด้วย


หลังจากผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็ได้เวลาโลดแล่นไปกับความตื่นตาตื่นใจของความศิวิไลในต่างแดน โปรแกรมแรกของการเดินทางในครั้งนี้ คือ การเดินทางไปเยี่ยมชมอุทยานประวัติศาสตร์โยชิโนการิ Yoshinogariiseki Historical Park ซึ่งเป็นเมืองโบราณที่เกิดจากการรวมตัวกันของชาวบ้านในท้องถิ่น จัดตั้งเป็นหมู่บ้าน มีรูปแบบและวัฒนธรรมความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่มีระบบความปลอดภัย มีวิถีการดำรงชีพ ซึ่งอุทยานแห่งนี้ตั้งระหว่างเมืองโยชิโนการิ และคาวาซากิชิ เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในสมัยยาโยอิที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เป็นยุคที่เรียกว่าเป็นต้นกำเนิดแห่งวัฒนธรรมแบบญี่ปุ่น และถูกสร้างขึ้นมาใหม่โดยการจำลองเมืองในสมัยยาโยอิ ซึ่งผู้มาเยือนสามารถรับชมวิถีการดำรงชีวิตในอดีตของชาวญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีมุคคุเทศน์คอยให้การต้อนรับและให้ข้อมูลต่างๆ ส่วนใหญ่จะเป็นภาษาญี่ปุ่น อุทยานฯแห่งนี้ได้ถูกลงทะเบียนเป็นมรดกของประเทศญี่ปุ่น พื้นที่บริเวณรอบข้างถูกดูแลเป็นสวนสาธารณะโยชิโนการิ

หลังจากนั้นก็ขึ้นรถบัสมุ่งหน้าต่อไปยังยานากาว่า Cruising Yanagawa เพื่อล่องเรือนั่งชมความงดงามของสองฝั่งคลอง น้ำใสไหลรินสะอาดตา ก่อนที่จะไปรับประทานอาหารกลางวันแสนอร่อยกับข้าวหน้าปลาไหลที่ภัตตาคาร Yanagawa OHANA เมื่ออิ่มเอมกับมื้อกลางวันแล้วก็ออกเดินทางต่อไปยังศาลเจ้าเทนมากุ Tenmagu เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอพรเป็นสิริมงคล ศาลเจ้าแห่งนี้ต้องบอกว่าใครที่เดินทางมายังฟูกุโอกะห้ามพลาดเด็ดขาด นอกจากความสวยงามอลังการและความสงบร่มเย็นแล้ว ระหว่างทางเดินไปยังศาลเจ้ายังแวดล้อมไปด้วยแหล่งช็อปปิ้ง ทั้งของที่ระลึกและอาหารการกินมีให้ชิมตลอดทาง

• ล่องเรือนั่งชมความงดงามของสองฝั่งคลอง น้ำใสไหลรินสะอาดตา


สำหรับสมาชิก 4x4Special โดยเฉพาะ เราขอนำเสนอของขึ้นชื่อในเมืองฟูกุโอกะ ของอร่อยหลายๆ อย่าง เมื่อมีโอกาสมาเยือนเมืองแห่งนี้ อาหารขึ้นชื่อของที่นี่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน อาทิ ซาชิมิปลาซาบะ เกี๊ยวซ่าฮากาตะ ไข่ปลาเทนโกะแสนอร่อย หรือฮากาตะราเมง หรือเรียกอีกอย่างว่าราเมงกระสอบ ไม่ควรพลาดสำหรับเมนูเด็ดเหล่านี้ด้วยประการทั้งปวง

• อาหารการกินมีให้ชิมตลอดทาง
ก่อนที่เราจะเดินทางไปถึงเมืองฮิโรชิมา ที่ถูกขนานนามว่าเป็นเมืองแห่งมาสด้า ขอเท้าความเป็นมาเพื่อให้เข้าใจตรงกันก่อนว่า มาสด้า มีต้นกำเนิดความเป็นมาเป็นอย่างไรบ้าง เพราะในอีกสองปีข้างหน้าก็จะมีอายุครบ 100 ปีพอดิบพอดี มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย มิสเตอร์จูจิโร่ มัตซึดะ ผู้นำด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในระหว่างการปฏิวัติอุตสาหกรรมของประเทศญี่ปุ่น โดยเริ่มจากการเป็นผู้ผลิตฝาจุกไม้คอร์กสำหรับขวดไวน์ มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2463 และได้เริ่มผลิตเครื่องมือกลใน พ.ศ.2472 ด้วยความที่เป็นผู้หลงใหลในเทคโนโลยีของมอเตอร์ไซค์ทำให้ต่อมา จึงก้าวเข้าสู่การผลิตมอเตอร์ไซค์ และใน พ.ศ.2474 ได้เริ่มต้นการผลิตรถบรรทุก 3 ล้อ ที่เรียกว่า "มาสด้า - โกะ" และเป็นรถคันแรกที่ผลิตโดยมาสด้า ต่อมาได้ผลิตรถยนต์โดยสารเป็นจำนวนมาก ต่อมาได้ผลิตเครื่องยนต์ 2 จังหวะรายแรกของโลก และในปัจจุบันมาสด้าเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่ผลิตเครื่องยนต์โรตารี่ รวมทั้งเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ

• ชาวคณะที่ร่วมชื่นชมฮิโรชิมา

• คุณอุทัย เรืองศักดิ์ หัวหน้าคณะทัวร์มาสด้าแจแปน
ปัจจุบันนี้ มาสด้า เป็นหนึ่งในผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก และได้กลายเป็นตำนานของวงการแข่งขันรถยนต์อีกด้วย ในปี พ.ศ.2528 รถแข่งมาสด้า ซาวันน่า หรือเรียกอีกชื่อว่า มาสด้า RX-7 ทำลายสถิติ IMSA ที่คว้าชัยชนะมากที่สุดถึง 67 ครั้งด้วยกัน และในปี พ.ศ.2534 รถแข่งมาสด้า 787B ได้กลายเป็นรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นรายแรกที่ชนะเลิศการแข่งขันรถยนต์เลอมังส์ Le Mans 24 ชั่วโมง ที่ประเทศฝรั่งเศส

• ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ ที่สถิตของธิดาแห่งเทพพายุและท้องทะเลทั้ง 3 องค์ และเทพแห่งดวงอาทิตย์อามาเทราสุ


สำนักงานใหญ่มาสด้าตั้งอยู่ที่เมืองฮิโรชิมา บนที่ราบลุ่มแม่น้ำโอตะอันเงียบสงบ ท่ามกลางภูมิประเทศอันสวยงามระหว่างทิวเขาและท้องทะเลสีคราม เป็นศูนย์รวมของการบริหารรูปแบบใหม่ และยังเป็นที่ตั้งของการออกแบบ การทดสอบ รวมถึงการผลิตและประกอบรถยนต์ที่ทันสมัยครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศและทำการส่งออกไปทั่วโลก

เมื่อเดินทางมาถึงยังจุดหมายปลายทาง นั่นคือ เมืองฮิโรชิมา แหล่งกำเนิดของมาสด้า ขอพาสมาชิกออกเดินทางไปด้วยกันเพื่อตระเวนชมแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในเมืองแห่งนี้ว่ามีอะไรที่น่าดึงดูดใจได้บ้าง นอกจากความเงียบสงบที่แตกต่างจากการมาญี่ปุ่นครั้งไหนๆ มีอะไรที่น่าตื่นเต้นกันบ้าง แต่ก่อนอื่นต้องบอกว่า ของขึ้นชื่อที่นี่ คือ หอยนางรมที่หวานที่ส่งออกไปทั่วโลก และพิซซ่าญี่ปุ่น หรือที่เรียกกันว่า โอโคโนมิยะกิ

ฮิโรชิมาประวัติศาสตร์ที่โลกต้องจารึก
ฮิโรชิมา ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ที่เต็มไปด้วยความทรงจำในอดีต หลังจากผ่านเรื่องราวเลวร้าย ที่นี่ก็กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับชาวต่างชาติ หรือแม้แต่ชาวญี่ปุ่นเอง เพราะเป็นเมืองที่มีมนต์เสน่ห์และความสวยงามอย่างน่าชื่นชม และยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญๆ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกถึง 2 แห่งอีกด้วย

• เกาะแก่งมีเยอะ ก็ต้องมีแพขนานยนต์ควบคู่กันไป
เมื่อครั้งอดีต ฮิโรชิมา เป็นเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก เพราะมีภูมิประเทศมีชัยภูมิที่มีลักษณะเป็นอ่าว ทั้งยังมีการออกแบบผังเมืองที่ดีมานานกว่า 100 ปี ภายหลังเมืองแห่งนี้กลับกลายเป็นศูนย์บัญชาการรบแนวหน้าของประเทศเมื่อครั้งที่เกิดสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น สงครามยืดเยื้อออกไปจนกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เมืองฮิโรชิมากลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการทิ้งระเบิดปรมาณู ถึงแม้ว่าเมืองแห่งนี้จะถูกทำลายไปมากก็ตาม แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นเมืองที่มีความสวยงาม และเต็มไปด้วยความทรงจำ รวมทั้งสปิริตอันแรงกล้าของชาวเมืองที่ไม่เคยยอมแพ้จนกลายเป็น Spirit of Hiroshima จนเป็นที่มาของมาสด้าในปัจจุบัน

• Hiroshima Peace Memorial หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า Genbaku Dome โดนระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Atomicbomb Dome
ศาลเจ้าอิตสึคุชิมะ Itsukushima Shrine มีทำเลที่ตั้งอยู่บนเกาะมิยาจิมา Miyajima ตามตำนานกล่าวไว้ว่าศาลเจ้าแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นเมื่อช่วงศตวรรษที่ 16 เพื่อเป็นที่สถิตของธิดาแห่งเทพพายุและท้องทะเลทั้ง 3 องค์ และเทพแห่งดวงอาทิตย์อามาเทราสุอีกด้วย ความโดดเด่นของศาลเจ้าแห่งนี้อยู่ที่ประตูโทริอิสีแดงที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางท้องทะเล มีโครงสร้างการออกแบบที่แข็งแรงแบบไร้ตะปูตอก มีพื้นที่บางส่วนที่ยื่นออกไปในทะเล ทำให้ที่นี่ถูกกล่าวขานว่าเป็นศาลเจ้าลอยน้ำเมื่อถึงช่วงเวลาที่น้ำทะเลหนุนสูง

• นอนเย็น-เป็นสุข จริงๆเลย

ซากแห่งความทรงจำ
Hiroshima Peace Memorial หรือที่ชาวญี่ปุ่นเรียกกันว่า Genbaku Dome เปรียบเหมือนเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อเตือนให้ทุกคนที่มาเยือนได้รำลึกถึงเหตุการณ์แห่งความสูญเสียที่เกิดจากมหาอำนาจ ความลุ่มหลงในอำนาจของชาติตะวันตกจากการช่วงชิงผลประโยชน์จนก่อให้เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 Hiroshima Peace Memorial Park เป็นสวนแห่งความทรงจำที่ตั้งอยู่กลางเมืองฮิโรชิมา ที่นี่เป็นศูนย์รวมสิ่งก่อสร้างต่างๆ ที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงอดีตความเจ็บปวดแห่งห้วงเวลา แม้จะผ่านไปนานแสนนานแต่ก็ไม่อาจหลุดพ้นจากจิตใจของมนุษย์

• เดินไป เพลินไป เหนื่อยก็หาที่นั่งครับ
โดมแห่งนี้ถูกสงครามอันโหดร้ายทำลายจนเสียอย่างหนักโดยระเบิดปรมาณูเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ.2488 (ค.ศ.1945) เหลือไว้เพียงตัวอาคารส่วนหนึ่งและโครงเหล็กของยอดหลังคาโดมไว้ให้ดู และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น Atomicbomb Dome

• สะอาดสะอ้าน น่าอยู่ น่าดู น่าเที่ยว

ทุกวันนี้จะมีนักท่องเที่ยวแวะเวียนกันมายังโดมหลังนี้อย่างไม่ขาดสาย เพื่อเยี่ยมชมส่วนหนึ่งของความเสียหายจากสงครามที่คงทิ้งร่องรอยความทรงจำในอดีตให้หวนนึกถึงความโหดร้ายของมนุษย์ที่กระทำกับมนุษย์ด้วยกันอย่างไม่เคยปรานี และที่นี่เราจะได้พบเห็นอยู่เสมอ คือกลุ่มเด็กนักเรียนที่ทางโรงเรียนพามาทัศนะศึกษาเพื่อให้เด็กๆ ได้หวนรำลึกถึงความทรงจำในอดีตและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ชาติ

• ปิดท้ายขบวน ด้วยการเดินชมเมืองของพ่อเบนซ์และมาดามเรน
หลังจากที่สำราญกับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองฟูกุโอกะและเข้าเช็คอินที่โรงแรม Rihga Royal Hotel Kokura ภารกิจสำคัญคือการไปทดสอบเครื่องยนต์ SKYACTIV-X ที่ในอนาคตอีกไม่นานต่อจากนี้มาสด้าจะนำมาเปิดตลาดในประเทศไทย เราไปดูความสุดยอดของเครื่องยนต์ตัวนี้ว่าจะเจ๋งแค่ไหน