
• คุณทาเคจิ โคจิมา คุณโคจิ มิสุกุชิ คุณฮิโรชิ โตคุชิเกะ และคุณอะคิระ เคียวเมน กับชาวคณะสื่อมวลชนไทย
หลังจากพาสมาชิก 4x4Special ตระเวนไปรอบๆเมือง สำเริงสำราญกับการเดินทางท่องเที่ยวในเมืองฟุกุโอกะ และเมืองฮิโรชิมา ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของมาสด้าอย่างเต็มอิ่มแล้ว ภารกิจสำคัญต่อจากนี้ไปคือการไปทดสอบเครื่องยนต์ SKYACTIV-X ที่ในอนาคตอีกไม่นาน เราจะได้เห็นมาสด้านำมาเปิดตลาดในประเทศไทย
เราไปดูความสุดยอดของเครื่องยนต์ตัวนี้ว่าจะเจ๋งแค่ไหน โดยได้รับเกียรติอย่างสูงจากคณะผู้บริหารสูงสุดของมาสด้า ผู้คร่ำหวอดในเรื่องของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟ มาบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ถึง 4 ท่าน ประกอบด้วย คุณทาเคจิ โคจิมา ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ คุณโคจิ มิสุกุชิ จากฝ่ายการผลิตของมาสด้า และคุณฮิโรชิ โตคุชิเกะ และคุณอะคิระ เคียวเมน ฝ่ายพัฒนารถยนต์ของมาสด้า ซึ่งทั้ง 4 ท่าน นี่คือหัวกะทิ ที่พัฒนารถยนต์มาสด้าจนโด่งดังมาแล้วทั่วโลก

• เครื่องยนต์ SKYACTIV-X

คุณฮิโรชิ โตคุชิเกะ กล่าวว่า เราพิจารณาเครื่องยนต์เบนซิน ที่ใช้กำลังอัดในการจุดระเบิด ซึ่งวิศวกรเรียกมันว่า เครื่องยนต์ในอุดมคติ หรือ สุดยอดของเครื่องยนต์สันดาปภายใน เนื่องจากมีการเผาไหม้ที่มีประสิทธิภาพ และเป็นการผสานระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลเข้าด้วยกัน นั่นคือที่มาที่เราเรียกมันว่า SKYACTIV-X
SKYACTIV-X เป็นเครื่องยนต์สันดาปภายในสิทธิบัตรเฉพาะของมาสด้า ที่ได้รวมลักษณะเด่นของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซลเข้าไว้ด้วยกัน เป็นการผสานกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล ได้อัตราความสิ้นเปลืองของการใช้เชื้อเพลิงอยู่ที่ 20% ดีกว่าเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ซึ่งเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงที่ดีที่สุดของเครื่องยนต์เบนซินในโลก ยิ่งไปกว่านั้นในภูมิภาคที่ประชากรมักจะขับขี่ด้วยอัตราความเร็วต่ำ การใช้เชื้อเพลิงจะปรับขึ้นไปที่ 30% อันเนื่องมาจากการเผาไหม้แบบ super lean เมื่อเปรียบเทียบเครื่องยนต์ I4 ในปี 2551 การปรับปรุงได้เปลี่ยนแปลงอย่างมากถึง 35 – 45% ซึ่งเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงได้ดีกว่าหรือไม่ต่างจากเครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซลรุ่นล่าสุด

• ระหว่างการทดสอบในสนาม
SKYACTIV-X เป็นเครื่องยนต์ใหม่ ซึ่งรวมข้อดีของเครื่องยนต์แก๊สโซลีนที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ สามารถทำงานที่รอบสูงและปลดปล่อยไอเสียสะอาดกว่า ผสมผสานเข้ากับเครื่องยนต์ดีเซลที่จุดระเบิดด้วยการอัด สามารถตอบสนองในตอนต้นได้ดีและประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อผลิตเครื่องยนต์ครอสโอเวอร์ที่ให้สิ่งที่ดีที่สุดของโลก หลังจากเครื่องยนต์แรกแก๊สโซลีน SKYACTIV-G และเครื่องยนต์ที่สองดีเซล SKYACTIV-D เครื่องยนต์ SKYACTIV ที่สามนี้ถูกให้ชื่อว่า “X”
ใน SKYACTIV-X เป็นเครื่องยนต์ที่พยายามเพิ่มอัตราส่วนอากาศต่อเชื้อเพลิง เพื่อให้เกิดการเผาไหม้เป็นแบบเชื้อเพลิงน้อยกว่าหลักทฤษฎี (ส่วนผสมเชื้อเพลิงบาง) ซึ่งจะทำให้มีการเผาไหม้ของอากาศในปริมาณที่มากขึ้น ส่วนอัตราส่วนอากาศต่อเชื้อเพลิงที่เหมาะกับการทำปฏิกิริยาตามทฤษฎี (stoichiometric) คือ 14 : 7 การสร้างอัตราส่วนอากาศต่อเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว ทำให้อากาศไปเพิ่มอัตราส่วนความร้อนจำเพาะให้สูงขึ้น และลดอุณหภูมิของก๊าซเผาไหม้ ในทางกลับกัน เป็นการลดการสูญเสียเนื่องจากการระบายความร้อน ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงดีขึ้น
การจุดระเบิดด้วยการอัดไม่จำเป็นต้องใช้หัวเทียน แต่จะต้องใช้หัวเทียนในตอนที่รอบเครื่องและช่วงของภาระที่ไม่สามารถใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดได้ แต่น่าเสียดายที่การสลับเปลี่ยนระหว่างสองโหมดนี้เป็นเรื่องยากมาก
ความรุดหน้าของ มาสด้า ได้มาจากการตั้งคำถามถึงแนวคิดทั่วไปว่า ไม่จำเป็นต้องใช้หัวเทียนในการจุดระเบิดด้วยการอัด แล้วเสนอแนวทางที่แตกต่างออกไปแทน แต่การเปลี่ยนโหมดการเผาไหม้ที่แตกต่างกันเป็นเรื่องยาก แนวคิดนี้กลายเป็นพื้นฐานของการจุดระเบิดด้วยการอัดที่ควบคุมประกายไฟ (Spark-Controlled Compression Ignition, SPCCI) ซึ่งเป็นวิธีการเผาไหม้ที่เป็นเอกลักษณ์ของมาสด้า

• การจุดระเบิดด้วยการอัดที่ควบคุมประกายไฟ (SPCCI)
การใช้ SPCCI หมายความว่า ช่วงที่เกิดการจุดระเบิดโดยการอัดสามารถเกิดขึ้นได้ (ในแง่ของภาระและรอบเครื่องยนต์) ทำให้เทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้ในเกือบทุกสภาพการขับขี่ เนื่องจากหัวเทียนกำลังถูกใช้งานอยู่ตลอดเวลา เครื่องยนต์สามารถสลับระหว่างการเผาไหม้จากการจุดระเบิดด้วยการอัดและการเผาไหม้จากการจุดระเบิดด้วยประกายไฟได้อย่างไร้รอยต่อ
แม้ว่า SPCCI เป็นวิธีการเผาไหม้แบบใหม่ทั้งหมด แต่ก็ขึ้นอยู่กับการทำงานของเครื่องยนต์เดิมที่มีอยู่ 2 ฟังก์ชั่น ได้แก่ การจุดระเบิดและการฉีดเชื้อเพลิง ซึ่งมาสด้าได้พัฒนาเทคโนโลยีพื้นฐานหลายอย่าง ที่ซับซ้อนที่จำเป็นก่อนหน้านี้เพื่อให้แนวคิด HCCI อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์สำหรับ SPCCI เป็นเรื่องง่ายและไม่มีความยุ่งยากซับซ้อน

• ข้อได้เปรียบของ SKYACTIV-X สมรรถนะและการตอบสนองดีขึ้นมาก
ด้วยปริมาตรกระบอกสูบของเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร SKYACTIV-X ให้แรงบิดอย่างน้อย 10% มากกว่า SKYACTIV-G รุ่นปัจจุบัน และเพิ่มขึ้นอีก 30% ที่ความเร็วรอบใดๆ (ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2560 อยู่ในระหว่างการพัฒนา) นอกจากนี้ เนื่องจากลิ้นเร่งเปิดอยู่ตลอดเวลา จึงแสดงให้เห็นว่ามีการตอบสนองการเร่งความเร็วที่เหนือกว่าที่พบได้ในเครื่องยนต์ดีเซลที่ไม่มีลิ้นเร่ง ในขณะที่ SKYACTIV-X หมุนไปด้วยความเร็วรอบที่สูงขึ้นอย่างราบรื่นและง่ายดายเช่นเดียวกับเครื่องยนต์เบนซินทั่วไป

• ตัวเลขเป้าหมายสำหรับสมรรถนะด้านกำลังของ SKYACTIV-X
(ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2560 อยู่ในระหว่างการพัฒนา)
ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น
ด้วยปริมาตรกระบอกสูบ 2.0 ลิตร SKYACTIV-X ช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึง 20% เมื่อเทียบกับ SKYACTIV-G ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมาก นอกจากนี้ ในพื้นที่ที่รถวิ่งด้วยความเร็วต่ำ การประหยัดเชื้อเพลิงสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 30% ด้วยการใช้การเผาไหม้สารผสมเชื้อเพลิงบาง เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ MZR ของปี 2551 การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้รับการปรับปรุงขึ้นอย่างมากประมาณ 35-40% และ SKYACTIV-X สามารถทำได้เท่ากับหรือเกินกว่าเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นล่าสุดของมาสด้า SKYACTIV-D ในเรื่องของประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง

• ตัวเลขเป้าหมายสำหรับสมรรถนะด้านการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงของ SKYACTIV-X
(ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2560 อยู่ในระหว่างการพัฒนา)
นี่คือความสุดยอดของเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ และเป็นครั้งแรกที่มาสด้ากล้าที่จะแตกต่าง ด้วยการนำเอารถต้นแบบที่กำลังพัฒนามาให้สื่อมวลชนได้ทดลองขับกันถึง 6 คัน ต้องบอกว่าความกล้าของมาสด้าในครั้งนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งเพราะรถแต่ละคันนั้นตีค่าตีราคาไม่ได้เลย หากเกิดอะไรขึ้นคงต้องมานั่งกุมไข่กันเลยทีเดียว
หลังจากได้ขับเครื่องยนต์สกายแอคทีฟ-เอ็กซ์ และเปรียบเทียบกับรถปัจจุบันที่เป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน ต้องบอกว่า มีสมรรถนะที่ค่อนข้างเห็นชัดเจน การออกตัว และการเข้าโค้ง ทำได้อย่างคมกริบ ต่อจากนี้คงต้องมาดูกันว่าเครื่องยนต์ตัวนี้ที่กำลังจะปล่อยลงสู่ตลาดในช่วงปลายปีนี้ที่อเมริกา และในบ้านเราในปีหน้าซึ่งทางผู้บริหารญี่ปุ่นคอนเฟิร์มแล้วว่ามาในร่างของมาสด้า3 โฉมใหม่อย่างแน่นอน อดใจรออีกไม่นานมาแน่

• ในบ้านเราจะมาในร่างของมาสด้า3 โฉมใหม่




• โปรดคอยชม มาแน่ๆ
