ถ้าพูดถึงที่เที่ยวในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวมักจะนึกถึง เขื่อนเชี่ยวหลาน เขาสก หมู่เกาะอ่างทอง เกาะสมุย เกาะพงัน ประมาณนี้ ซึ่งจริงๆ แล้ว… จังหวัดสุราษฎร์ธานีมีที่เที่ยวเยอะมากกกกกกก… เยอะจริงๆ ถ้าจะเที่ยวกันจริงๆจังๆ หนึ่งเดือนเต็มก็เที่ยวไม่หมด แน่นอน

• ยามเช้าที่แม่น้ำตาปี

วันนี้…เรามีชุมชนริมน้ำน่าเที่ยว มาแนะนำ ขอบอกว่า… มันเหมาะมากกกกกก กับคนรุ่นใหม่ สายฮิปอย่างเรา ที่ต้องการอยากจะไปชิคๆ คูลๆ ... หรือไปสโลว์ไลฟ์สัมผัสวิถีชีวิตริมคลอง ... สัมผัสความงามจากธรรมชาติไปพร้อมๆ กับการเรียนรู้วิถีชุมชน ... ที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี้คือ ชุมชน “บางใบไม้” ที่บรรยากาศดีจนเราไม่อยากให้ถูกมองข้าม 

สำหรับการเดินทางไปในครั้งนี้เราก็ยังได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด โดยคุณปรีชา โพธิ ผู้อำนวยการฝ่าย ประชาสัมพันธ์และกิจกรรมสังคม และพี่เอก ลำตะคอง กับ น้องกุ๊ก ที่จัดการดูแลเรื่องพาหนะในการเดินทางเหมือนเช่นเดิม

• จุดชมวิว สะพานศรีสุราษฎ์

• บางใบไม้ยามเช้า

และในครั้งนี้ เรายังได้ Toyota Fortuner 2.4V 4WD Sigma4 เป็นเพื่อนที่ถูกใจผมเป็นพิเศษสำหรับการเดินทาง เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ในช่วงค่ำเพื่อให้ไปถึงสุราษฎร์ธานี ตอนหัวรุ่ง (ภาษาใต้ เค้าเรียกตอนรุ่งเช้าว่า “หัวรุ่ง” ครับ) เส้นทางที่เราใช้ก็เป็นเส้นลงใต้ตามปกติ ผ่านเส้นพระราม2 สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าไปทางชะอำ เพราะไม่อยากวิ่งทางเลี่ยงเมืองหัวหิน สาเหตุเนื่องจากรถ 10 ล้อ และ 18 ล้อ ที่วิ่งเส้นเลี่ยงเมืองสายนี้มักจะวิ่งแช่ขวา บีบแตรก็แล้ว เปิดไฟสูงก็แล้ว ทำยังไงก็ไม่หลบ ขับตามแล้วเครียด ไม่อยากเสียอารมณ์ ... ก็เลยขับเล่นไปเข้าตัวเมืองหัวหิน เลยออกไปชมบรรยากาศอุทยานราชภักดิ์ในยามค่ำคืนก็สวยไปอีกแบบ ... เส้นทางช่วงนี้ขับไปแบบสบายๆ ใช้ความเร็วเดินทางอยู่ที่ 100-110 กม./ชม. แรงม้า 150 ตัว แรงบิดระดับ 400 นิวตันเมตร พาตัวรถไปได้แบบสบายๆ เพราะเราเดินทางกับแบบชิลๆ 

หลังจากนั้นเราแวะพักกันที่ปั๊ม ปตท. แถวจังหวัดประจวบฯ เข้าห้องน้ำล้างหน้าเรียบร้อยก็ออกเดินทางต่อ ... คราวนี้ก็ตรงยาวประจวบฯ ชุมพร เข้าไปหาสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางของเรา ... เส้นทางช่วงนี้ได้รับการปรับปรุง และลาดยางใหม่แล้ว ถนนเรียบ ขับสบายมาก สามารถทำความเร็วได้พอสมควรเลยทีเดียว แต่ก็ยังเจอกับปัญหาเดิมๆ คือพวกรถใหญ่และรถคอก (รถกระบะที่ทำคอกสูงๆเพื่อบรรทุกของได้เยอะๆ เสริมแหนบสูงเท่าตึก 3 ชั้น) ซึ่งพวกนี้มีนิสัยเดียวกันคือ วิ่งแช่ขวา ถึงแม้ซ้ายจะว่าง ถึงแม้ถนนจะลาดยางใหม่แล้ว ไม่มีหลุมบ่อ กูก็ยังวิ่งแช่ขวา อย่าไปพยามเปิดไฟสูง หรือ บีบแตรไล่ กับพวกนี้ครับ ไม่คุ้มกับการเอาชีวิตเราไปเสี่ยง ถ้าเลี่ยงได้ก็พยามแซงไปให้พ้นจากรถพวกนี้โดยเร็วจะดีที่สุด

• ลุงไก่ มือขับเรือไร้เทียมทาน

• ฝีมือการถอยเรือ เห็นแล้วยังอึ้ง

ผ่านชุมพรมาซักระยะฝนก็ตกลงมาค่อนข้างหนัก  ผมลดความเร็วลงมาเหลือที่ประมาณ 90 กม./ชม. และเลือกใช้งานระบบขับเคลื่อนแบบ Sigma4 หรือที่เรียกกันง่ายๆว่า Part Time 4WD ที่ถูกนำเข้ามาแทนระบบ Full Time 4WD แบบเดิม ระบบขับเคลื่อน Sigma4 จะเป็นระบบที่สามารถเลือกโหมดการขับได้ทั้ง H2, H4 และ L4 ทำงานร่วมกับระบบ DAC หรือ Down Hill Assist Control และ A-TRC หรือ Active Traction Control โดยโหมด H2 จะเป็นระบบขับเคลื่อน 2 ล้อสำหรับสภาพถนนปกติ, โหมด H4 ขับเคลื่อน 4 ล้อสำหรับสภาพถนนเปียกลื่นและลูกรัง และโหมด L4 ขับเคลื่อน 4 ล้อสำหรับเส้นทางวิบาก และเส้นทางที่ต้องการใช้งานแรงบิดสูงสุด ช่วงเส้นทางที่ฝนตกหนักถนนลื่น ระบบ 4H ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้มากขึ้น และช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วย 

• บังคับเรือลัดเลาะไปตามลำคลอง ต้องฝีมือนะครับขอบอก

• วิถีชีวิตริมคลอง ที่ทุกบ้านต้องมีเรือ

เราเดินทางมาถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประมาณ ตี 4 ครึ่ง แวะจอดนอนพักผ่อนคลายความเมื่อยล้ากันเล็กน้อย ตื่นอีกทีประมาณ 7.30 น. ลุกไปล้างหน้าล้างตาพร้อมที่จะไปเที่ยวในคลองร้อยสายกันแล้วครับ เส้นทางคร่าวๆ ไปที่ชุมชนบางใบไม้ เราขับรถจากศาลากลางจังหวัดสุราษฎรณ์ตรงไปประมาณ 8 กิโลเมตร ถึงตัวตำบลบางใบไม้ ข้ามสะพานแม่น้ำตาปี แล้วตรงไปอีก 3 กิโลเมตร จะเห็นป้ายศูนย์บริการการท่องเที่ยวตำบลบางใบไม้ให้เลี้ยวขวาก็จะถึงวัดบางใบไม้ สอบถามกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ตำบลบางใบไม้ 08-1607-4935, 0-7729-2903 ถ้าไม่แน่ใจสามารถเปิดใน Google map หาวัดบางใบไม้ รับรองมาถูกแน่นอนครับ

• ลำนี้เรือประมงชายฝั่ง ออกไปได้ไกลหน่อย

• คุณลุงคนนี้ ไปจับปู กุ้ง เอาไปขายที่ตลาด

จากอดีตที่ผ่านมาสุราษฎร์ธานี เป็นเมืองแห่งสายน้ำ นอกจากน้ำทะเลแล้วยังมีแม่น้ำตาปีเป็นหัวใจสำคัญก่อนแยกออกเป็นคลองสาขาน้อยใหญ่ไหลเลาะเลี้ยวไปตามแผ่นดินเรียกกันว่า “คลองร้อยสาย” เชื่อมโยงพื้นที่ 6 ตำบลของอำเภอเมือง ชาวบ้านเรียกชุมชนเหล่านี้ว่า “ชุมชนในบาง” มีตั้งแต่ บางใบไม้ , บางไทร , บางโพธิ์ , บางชนะ ไปจนถึงคลองฉากและคลองน้อย สมัยก่อนตอนยังไม่มีถนน ผู้คนในตำบลเหล่านี้สัญจรโดยทางเรือเพียงอย่างเดียว เมื่อเวลาผ่านไป ทุกอย่างก้อเปลี่ยนตาม ... เดี๋ยวนี้แม้จะมีถนนหนทางเข้าถึงทุกพื้นที่ทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น แต่การสัญจรทางน้ำก็ยังคงอยู่ วิถีชีวิตของชาวบ้านก็ยังคงวัฒธรรมเดิมๆ ไม่ได้จางหายไปไหน สองฟากฝั่งคลองยังเต็มไปด้วยป่าจาก และสวนมะพร้าว

• บ้านลุงสงค์ เจ้าของผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวส่งขายในตลาดอาเซียน

ส่วนผู้คนในชุมชมก็ได้มีการช่วยกัน ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อให้เข้ากับความเจริญที่ก้าวเข้ามา ... อันดับแรกก็คือการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตกับสายน้ำให้เป็นการเรือท่องเที่ยวทางเรือ พานักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัสบรรยากาศบ้านสวนริมคลอง เหมือนที่เราได้สัมผัสชีวิตเรียบง่ายใกล้ชิดธรรมชาติของชาวคลองบางใบไม้

• แชมพูมะพร้าว

• เซรั่มมะพร้าวสกัด บำรุงผม

• โลชั่นมะพร้าว ใช้แล้วผิวเนียน

ครั้งนี้ที่เราไปเที่ยว เราได้โอกาสรู้จักกับกลุ่มท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ของชุมขนที่วัดบางใบไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราได้รับการแนะนำ และประสานงานอย่างดีจาก “กำนันจรัญญา ศรีรักษ์” หรือที่เรียกกันติดปากว่า “กำนันสาว” ซึ่งท่านเป็นประธานชุมชนวัดบางใบไม้อีกด้วย เรามีโอกาสได้คุยกับกำนันสาว เธอเล่าว่าได้พูดคุยกับกลุ่มชาวบ้าน ถึงแนวทางในเรื่องของการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เข้ากับปัจจุบัน และช่วยเสริมสร้างกิจกรรมเพื่อให้ชาวบ้านบางใบไม่พึ่งพาตนเองได้ และสามารถทำเกษตรแบบผสมผสานไปกีบการท่องเที่ยว โดยจัดการรวมกลุ่มชาวบ้านที่ใช้เรือที่มีอยู่เดิมในการทำประมงและใช้สัญจรทางน้ำ มาปรับเพื่อให้เข้ากับรูปแบบของการทำเป็นการท่องเที่ยวทางเรือ เริ่มต้นกันเพียงไม่กี่ลำในปี 2549 ปัจจุบันมีเรือในกลุ่มประมาณ 10 ลำ มีโฮมสเตย์สำหรับนักท่องเที่ยว 7 หลัง และเรือแต่ละลำจะโดยสารนักท่องเที่ยวไม่เกิน 10 คน พร้อมเสื้อชูชีพครบเสร็จสรรพ เน้นเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก

• น้องจ๋อนั่งทักทายคนนั่งเรือผ่าน

หลังจากที่เราคุยกับกำนันสาวเสร็จ เราก็พร้อมที่จะนั่งเรือท่องเที่ยวเส้นทางคลองบางใบไม้กันแล้วครับ สำหรับนักขับเรือมือฉมังของเราในวันนี้กำนันจัดให้เราไปกับ “ลุงไก่” ผู้ซึ่งคนแถวบางใบไม่รู้จักกันดี ว่าแกมีฝีมือทางด้านการขับเรือในอันดับต้นๆ แบบหาตัวจับยาก ทั้งเรื่องของการบังคับเรือ การดูทางน้ำ การดูร่องน้ำว่าควรชิดฝั่งไหนใต้ท้องเรือถึงจะไม่ติด  อันนี้ต้องอาศัยประสบการณ์ล้วนๆ 

• ขนมจากแท้ๆ จากชาวบ้านบางใบไม้

• เนื้อมะพร้าวแท้ๆ หอมอร่อย

• ไปตามร่องน้ำ หลบเนินทราย ฝีมือล้วนๆ

การขึ้นเรือหางยาวแบบติดเครื่อง ถ้าเป็นลำเล็กต้องยืนถ่ายน้ำหนักให้ดี อย่างเอียงไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่งั้นเดี๋ยวเรือเอียงและอาจคว่ำได้ ส่วนเรือของลุงไก่ เป็นแบบลำใหญ่ ก้าวขึ้นไปได้แบบสบายๆ เครื่องยนต์ใช้ของ HONDA รุ่น GX 390 T QT 13 แรงม้า สามารถบรรทุกคนได้ประมาณ 8-10 คนเลยทีเดียว 

• ออกปากแม้น้ำตาปี

• ริม 2 ข้างทาง กับวิถีชีวิตริมคลอง

ออกเดินทางกันแบบเพลินๆ รับลมเย็นๆ อากาศดีมากในยามเช้า ใครไปเที่ยวช่วงหน้าฝนรับรองเขียวฉ่ำชื่นตาชื่นใจ เพราะบรรยากาศสองฝั่งคลองส่วนใหญ่เป็นสวนจากสลับกับทิวสวนมะพร้าว บ้านไม้ชายคลองกับชานนั่งเล่นเล็กๆ น่าอยู่จนเรานึกอิจฉา บ้านโบราณบางหลังอายุกว่า 200 ปี ใช้การเข้าสลักไม้แทนตะปู แต่บ้านยังอยู่ทนมาจนป่านนี้ เสียดายที่ไม่ได้แวะเพราะบ้านกำลังซ่อมแซม ทำได้แต่ชะเง้อมองความสวยอยู่ไกลๆ ลุงไก่เล่าให้ฟังว่า การล่องเรือหลายช่วงจะผ่านสะพาน บางสะพานก็ไม่มีปัญหาลอดได้สบายๆ แต่บางช่วงที่น้ำทะเลหนุนน้ำแทบจะถึงใต้สะพาน เวลาล่องเรือผ่านต้องนอนราบไปกับตัวเรือ

• อุโมงค์ต้นจาก ... จุดเช็คอินที่คลองร้อยสาย

• โอบล้อมเหมือนอ้อมกอดของชาวบ้านบางใบไม้

• คุณยายเก็บใบจากไปห่อขนม

ลุงไก่พาเราแวะตามบ้านหลังต่างๆ ที่มีการรวมกลุ่มกันทำอาชีพ เช่นที่บ้านลุงสมประสงค์ ศรีเทพ เดิมทีแกทำสวนมะพร้าวแล้วพัฒนาต่อยอดจนกลายผลิตภัณฑ์น้ำมันมะพร้าวส่งขายในตลาดอาเซียน โดยเฉพาะน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นที่กำลังฮิตกันอยู่ตอนนี้ ตลอดจนผลิตภัณฑ์เสริมสวยจากมะพร้าวนานาชนิดก็มีให้สาวๆ ได้ช้อป นอกจากนี้แกยังเปิดบ้านเป็นโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวมากินมาพักอย่างเป็นกันเอง 

• แกงเหลืองปลากะพง เครื่องแกงเผ็ดระดับ 10

• ต่อมาแกงไตปลาพุงไข่ ไข่ปลารสมัน มาเป็นพวง

• ใบเหรียงผัดวุ้นเส้น ได้ความหนึบของวุ้นเส้น ความมันของใบเหรียง 2 จานถึงจะพอ

• กุ้งเผา มันทะลัก ไหลเยิ้ม ดูดจ๊วบบบบ เข้าปากอร่อยอย่างบอกใครเลยเชียว

• จานสุดท้ายคั่วกลิ้งหมู ร้อนแรงทั้งเครื่องแกงแถมด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด

ออกจากสวนลุงสงค์ เรือพาไปผ่านช่วงที่เจ้าจ๋อสุดหล่อมารับจ๊อบเก็บมะพร้าวด้วย แถมยังโพสท่าหล่อๆ ให้ถ่ายรูปกันจนหนำ ... เสร็จแล้วต่อด้วยไปดูการเย็บจากและงานหัตถกรรมจากทางมะพร้าว รวมถึงชิมขนมจากอร่อยๆ ที่ทางชุมชนตั้งชื่อใหม่เก๋ไก๋เพื่อแก้เคล็ดว่า “ขนมแรกพบ” โดยใช้ส่วนผสมของมะพร้าว แป้ง และน้ำตาลจากที่ให้รสหวานกำลังดีเชียว

• คุณฝ้าย คาเฟ่ ร้านกาแฟสวยหลบอยู่ในสวน

หลังจากนั้นเราก็ล่องเรือออกไปชมปากแม่น้ำตาปีที่เป็นทางออกทะเล ... แล้วก็วกกลับเข้ามาถึงจุดเช็คอินสุดท้ายคือ "อุโมงค์ ต้นจาก" อีกหนึ่งสถานที่ Unseen ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งริมแม่น้ำทั้งสองฝั่งในช่วงนี้จะเต็มไปด้วยต้นจากและวิถีธรรมชาติอุที่ดมสมบูรณ์ เรือไหลไปช้าๆ ลอดอุโมงค์ต้นจากที่โค้งมาประสานใบกัน เสมือนโอบกอดอันอบอุ่นของชาวบ้านบางใบไม้... 

• หลังคาสูงช่วยให้ร้านดูโปร่ง

ไหนๆ มาเที่ยวคลองบางใบไม้ทั้งที ถ้าไม่ได้ชิมอาหารท้องถิ่นของคนแถวนี้คงเสียเที่ยวแย่ “ร้านบ้านปลายคลอง” ตั้งอยู่แถวปลายคลองบางใบไม้สมชื่อ แนะนำให้ไปทางรถจะสะดวกกว่าทางเรือ เพราะตอนนี้หิวจนตาลายแล้ว 5555 ฝีมือปรุงอาหารของร้านอร่อยจัดจนเป็นที่กล่าวขานไปทั้งร้อยคลอง ไม่ว่าจะเป็นแกงเหลืองปลากระพง ที่ใช้เครื่องแกงตำเอง เด็ดที่ความเผ็ดระดับ 10 แซบจนต้องแลบลิ้นออกมารับลม เนื้อปลาไม่มีคำว่าคาวซักนิด เพราะใช้ปลาสด และถูกดับคาวไปด้วยเครื่องแกงเรียบร้อย ต่อมาแกงไตปลาพุงไข่ คว้านพุงปลา เอาไข่มาประมาณ 3กิโลครึ่งได้ ไข่ปลามีรสชาติมัน อร่อย ตัดกับความเผ็ดของเครื่องแกงได้เป็นอย่างดี จานต่อมาอยากกินเป็นการส่วนตัว ใบเหรียงผัดวุ้นเส้น เป็นพืชที่ปลูกง่าย ราคาไม่แพง แต่ทำไมเอามาผัดใส่ไข่แล้วแพงก็ไม่รู้ ที่แต่รู้ๆ ผัดกับวุ้นเส้น ใส่ไข่ด้วย ได้ความหนึบของวุ้นเส้น ความมันของใบเหรียง อร่อยจนต้องต่อจานที่ 2 แถมอีกจานด้วยกุ้งเผาที่ได้กุ้งขนาดย่อม กำลังดี เผากันแบบสดใหม่ แกะกุ้งออกมา มันจากหัวกุ้งไหลเยิ้ม ดูดจ๊วบบบบ เข้าปากอร่อยอย่างบอกใครเลยเชียว ปล. ผมไม่สามารถหาคำตอบได้ว่ากุ้งนึ่งกับกุ้งเผาแบบไหนอร่อยกว่า ... แต่ที่แน่ๆ กุ้งเผาที่นี่เผามาแบบค่อนข้างแห้ง ได้รสชาติหวานๆ ของเนื้อกุ้งเต็มที่ ที่สำคุญคือกลิ่นหอมๆ จากถ่านมันได้อารมณ์การกินก็ตรงนี้แหละครับ จานสุดท้ายคั่วกลิ้งหมู ต้องบอกว่าร้อนแรงมาก ทั้งเครื่องแกงที่ใช้ผัดแถมด้วย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งเป็นเครื่องเคียงที่มีรสชาติร้อนแรงทั้งนั้น สรุป แลบลิ้นออกมารับลมเป็นรอบที่ 2 ก็ยังไม่หายเผ็ดเลยครับ ขอบอก “หรอยจังฮู้” จริงๆ

• อเมริกาโน่ เพิ่มช็อต อาริบ้า100% ของดอยช้าง เข้ม... ดีดเลย

เราเพลินกันอยู่ที่บางใบไม่จนถึงบ่าย หลังมื้อเที่ยงมีสัญญาณเตือนจากร่างกายมาว่าต้องเติมคาเฟอีนเข้ากระแสเลือดหน่อยแล้ว ถามเจ้าถิ่นสุราษฎร์ฯ ได้ความว่ามีร้านกาแฟเก๋ อยู่ในเส้นทางที่เราจะไปขับรถเที่ยวต่อพอดี “ร้านคุณฝ้ายคาเฟ่” ร้านหาไม่ยากครับ จากตัวเมืองสุราษฎร์ฯ วิ่งไปทางเขื่อนรัชประภา ร้านอยู่ติดถนนเส้น 401 ถ้าไปจากตัวเมืองจะเจอร้านกาแฟด้านซ้าย บริเวณทางโค้ง มีป้ายบอกตลอดทาง ร้านกาแฟจะตั้งอยู่ติดกับสวนสตอเบอรี่คุณฝ้ายครับ เค้าเป็นเจ้าของเดียวกัน และถือเป็นสวนสตอเบอรี่เจ้าแรกที่ปลูกในภาคใต้ของเรา

• ลุยฝนแบบนี้ ใส่ 4H ไปเลย นิ่งๆไม่ดีดดิ้น

ที่ร้าน “ร้านคุณฝ้ายคาเฟ่” ตกแต่งแบบเก๋ๆ ให้นั่งเล่นได้ชิลๆ สำหรับเมนูกาแฟที่เราสั่งมาลองก็เป็นเอสเปรสโซ่หวานน้อย แล้วก็อเมริกาโน่ เพิ่มซ็อตแบบเข้มข้น ซึ่งที่นี่ใช้กาแฟอาริบ้า100% ของดอยช้าง ซึ่งเป็นเมล็ดกาแฟที่ปลูกด้วยวิถีเกษตรแบบอินทรีย์ตามมาตรฐานของ USDA และ EU Organic ได้รสชาติที่เข้มข้นไม่ต่างจากกาแฟจากต่างประเทศเลยทีเดียว โดยเฉพาะอเมริกาโน่ เพิ่มซ็อต ของผมเอง เน้นความเข้มข้น จัดไป 2 ช็อต (อเมริกาโน่คือกาแฟช็อตเข้มข้น(เอสเพรสโซ่)+น้ำร้อน) เพิ่มความสดชื่นและกระตุ้นการทำงานของร่างกายได้ดีมากเลยทีเดียว ส่วนเบเกอรี่ก็มีหลากหลายทีเดียวครับ  วันนั้นกินไม่ไหวแล้วจริงๆ เพราะกินข้าวเที่ยงมาเยอะมาก เลยต้องงดขนมหวาน 1 มื้อ ....

• ตลาดศาลเจ้า ฝนตกคนก็ยังเดินหาของกิน

ตกเย็น ยังไม่จบกันภาระกิจท่องเที่ยว เรายังมีมิสชั่นสุดท้ายกับการไปเดินเล่นตลาดศาลเจ้า ไปหาของกินมื้อเย็น ตลาดศาลเจ้า ตลาดสะพานโค้ง 100 ปี เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เริ่มตั้งของขายกันตั้งแต่ 4 โมงเย็น ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมอาหารการกินมากมายหลายชนิด ตอนเย็นๆ พ่อค้าแม่ค้าก็จะมาตั้งแผงขายอาหารกัน คนในเมืองส่วนใหญ่ก็จะฝากท้องกันไว้ที่นี่แหละ ใครมาที่นี่รับรองฟิน เพราะของอร่อยเพียบ...ไม่อยากจะโม้ ไม่ว่าจะเป็นผักบุ้งไต่ราว โล้งโต้ง ที่เป็นอาหารพื้นเมือง หรือจะเป็นผัดไทย ขนมจีน สุกี้ ข้าวราดแกง อาหารตามสั่ง ห่อหมก ไปจนถึงขนมหวานไทยๆ เช่น ขนมโค ขนมต้ม ขนมชั้น ขนมเผือก ขนมมัน บัวลอย ฯลฯ ล้วนแต่น่ากินทั้งนั้น 

• ห่อหมกไม้ ของดี อร่อยฟินเวอร์

แต่มีอยู่ร้านนึงที่จะมาแนะนำก็ ... คือร้านที่ขายห่อหมกไม้ ซึ่งเป็นห่อหมกทะเล ... กลิ่มหอมยั่วความอยากเหลือเกิน ร้านจะอยู่ตรงหัวมุมในซอยตลาด ร้านเป็นรถเข็น ส่วนตัวชอบกินห่อหมกแบบย่างมากกว่าแบบนึ่งครับผมว่ามันหอมกลิ่นใบตองดี ห่อหมกร้านนี้ให้เนื้อเยอะมาก ราคาไม่แพงไม่ละ 15 บาท ... เนื้อแน่นๆ อร่อยคุ้มราคา ทั้งเรื่องของรสชาติอร่อยไม่เผ็ดเกินไป แต่ก็ไม่อ่อนจนเกินไป ... ใครชอบกินห่อหมกแนะนำมาตามลายแทงเลย

• ปลาทูต้มเค็ม นิ่มยังก้าง เคี้ยวได้หมดทั้งตัว

ร้านต่อมาไปชิมปลาทูต้มเค็ม ... คนยุคเก่าๆ เค้าชอบกัน ... และที่ตลาดศาลเจ้ากล้าพูดได้เลยว่า ... รสชาติดีกว่าบางตลาดมากๆ ร้านนี้จะใช้ปลาทูตัวหัวและหางออกเรียบร้อย ... ต้มกันยาวนานจนแม้แต่ก้างก็ยังนิ่มเลย ... เครื่องปรุงก็ซึมซาบเข้าเนื้อปลา ดำสนิททั้งข้างนอกและข้างใน ... ทำให้ได้ปลาทูต้มเค็มที่มีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม หอมกลิ่นขิง ตะไคร้อ่อนๆ ด้วย ... ที่ชัดเจนคือไม่มีกลิ่นคาวเลย เป็นรสชาติแบบโบราณที่ไม่หวานติดลิ้นเหมือนบางร้าน อร่อยฟินไปอีกร้าน ... 

• ผัดไท เตาถ่าน ป้าหนุ่ย อิ่มจะแย่แต่ต้องกิน เพราะอร่อย

สุดท้ายที่ถึงจะอิ่มแต่ก็ต้องเอาใส่ห่อกลับมากินให้ได้ ผัดไทยเจ้าดังแห่งตลาดศาลเจ้า ... ผัดไทยเตาถ่าน ป้าหนุ่ย ที่คนรอคิวซื้อกันเยอะมาก คือ ... สั่งไว้แล้วไปเดินวนตลาดมาสองรอบก็ยังไม่ได้ ... ตัดสินใจกลับไปยืนรอ ... แต่คุ้มกับที่รอเพราะผัดไทยกลิ่นหอมเตาถ่าน ... น้ำปรุงรสชาติเข้มข้น ที่ร้านทำน้ำปรุงแยกต่างหาก ... น้ำปรุงเป็นแบบน้ำกะทิผสมเครื่องแกง มีรสออกไปทางเผ็ด ... เส้นเอามาผัดทีหลัง เสร็จแล้วถึงจะใส่น้ำปรุงลงไป ... ผัดให้เข้ากันแล้วตักใส่ถาดพักไว้ แล้วค่อยจัดใส่จานหรือใส่ห่อให้ลูกค้าอีกที ชิมแล้วน้ำปรุงผัดไทเป็นสูตรเด็ดจริงๆ ไม่เคยกินที่ไหนเป็นแบบนี้ ผัดได้ซึมกับเส้น รสชาติเผ็ดๆ ออกไปทางหวานหน่อย ใครชอบหวานก็จัดได้เลย อิ่มขนาดไหนก็ต้องจัดลงกระเพาะให้หมด คอนเฟิมร้านนี้ รอนาน แต่อร่อยจริงๆ กลับไปนอนได้แบบหลับสบาย...

• เลี่ยนไถ่ ปาท่องโก๋ในตำนาน

ตื่นเช้ามาอีกวัน เริ่มต้นด้วยของเด็ดของดี อาหารเช้าของชาวสุราษฏร์ธานี คือ ... ปาท่องโก๋ มีโอกาสได้ไปสุราษฏร์ธานี...มีคนในท้องถิ่นแนะนำเลยว่า สุดยอดปาท่องโก๋เตาถ่านสุดอร่อยต้องเจ้านี้ “ร้านเลี่ยนไถ่” เท่านั้นเลย แถมโม้...ให้อยากด้วยสรรพคุณต่างๆ นานา ... แบบนี้ต้องไปลอง 

• ทอดกันหน้าร้าน กระเด็นใส่ไม่รับผิดชอบ

สำหรับร้านนี้เป็นที่รู้จักกันดีของชาวอำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี ตั้งอยู่ถนนชนเกษมทางไปตลาดศาลเจ้านั่นเอง ... แต่อยู่ตรงแยกโรงแรม CBD หรือว่าสี่แยกเทศบาลนั่นแหละครับ เราตั้งใจไปตั้งแต่เปิดร้าน เพื่อจะได้ไม่ต้องไปแยงกับใคร แต่คิดผิดครับ มีคนมาสั่งเอาไว้ตั้งแต่ประตูหน้าร้านยังไม่เปิด ผมไปได้คิวที่ 6 ... โอ้วววว ถ้าไม่อร่อยนะ มีเคืองแน่นอน ... 

• ทอดทีละน้อย จะได้กลับทั่วถึง

บรรยากาศภายในร้านยังคงความคลาสสิกเหมือนเดิม ด้านหน้าเป็นโต๊ะทำปาท่องโก๋ แล้วก็ทอดกันให้เห็นแบบไม่ต้องไปขอดูข้างใน เปลวเตาถ่านก็กำลังระอุได้ที่ อาเฮียก็ทำแป้งไป รับออเดอร์แบบ งงๆ ไม่จดด้วยนะ ... เฮียจะจำได้เหรอเนี่ย รอไม่นาน แกก็คีบปลาท่องโก๋ใส่จานมาให้ด้วยจำนวนตามที่สั่งไปเป๊ะ คือ 6 ตัว !!! ไม่มีพลาด .... ผมอุทานออกไปทันทีว่า เจ๋งว่ะเฮีย ... จำได้ด้วย เฮียตอบว่า ขายมา 50 กว่าปีแล้ว ผมทำหน้างง ... ถามตอนไหนว่าขายมากี่ปี 5555 

• กรอบนอก นุ่มใน ไม่อมน้ำมันมาก

หยิบคำแรกเข้าปาก เนื้อแป้งภายนอกกรอบ ภายในนุ่ม ไม่ได้โดนทอดไปจนกรอบ มีรสชาติออกหวานๆหอมๆด้วย ที่สำคุญคือ ไม่อมน้ำมัน และไม่เลี่ยน รสชาติแบบนี้เองที่ทำไมคนสุราษฎร์ธานี ถึงมากินร้านนี้ตลอด 50 ปี สุดยอดปาท่องโก๋เตาถ่านสุดอร่อย ร้านเลี่ยนไถ่ ข้าน้อยขอคารวะ ... ถ้าไปสุราษฎร์ธานีแล้ว ไม่ได้กินปาท่องโก๋เตาถ่านร้านเลี่ยนไถ่ร้านเรียกว่าไปไม่ถึง อร่อยแบบนางงามสยามประเทศจริงๆ

• จิ้มนม ..... หวานชื่นใจ อิ่มจังไม่อ้วนฟรี

จบทริปไปอีกครั้ง กับจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย และยังเป็นแหล่งวัฒนธรรม วิถีชีวิตพื้นบ้านที่ยังดำเนินไปอย่างเรียบง่าย ไม่ว่าเวลาจะล่วงเลยไปนานแค่ไหนก็ตาม ครั้งหนึ่ง ... เราอาจจะเคยคิดว่าถึงเวลาทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไป แล้วเราก็อาจจะต้องเปลี่ยนตาม แต่ที่คลองร้อยสาย บางใบไม้ สุราษฎร์ธานี วิถีชีวิตชุมชนที่นี่ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปมากนัก เพราะพวกเค้าพยายามที่จะอนุรักษ์มันเอาไว้ ให้ชนรุ่นหลังได้รู้ว่า ในสมัยก่อนคนที่นี่ ใช้ชีวิตริมคลองกันยังไง และก็จะยังใช้ชีวิตริมคลองแบบนี้ต่อไป ......