ReadyPlanet.com
dot




โอเคนะ อย่าถามมาก ปวดหัวนะว้อยส์!! นิสสัน เผยจุดเด่นของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน

นิสสัน คาดว่าจะขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่าหนึ่งล้านคันต่อปี ภายในปี พ.ศ.2565 หรือ ค.ศ.2022 เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานที่ให้ความยั่งยืน และนี่คือลักษณะเด่นของนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนของนิสสันแต่ละประเภท

ระบบขับเคลื่อนที่ใช้ไฟฟ้า 100%

ใช้มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง พร้อมระบบแบตเตอรี และอินเวอร์เตอร์ หรือ e-Powertrain มีน้ำหนักเบาและขนาดกะทัดรัดเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ให้แรงบิดสูงอย่างรวดเร็วแต่นุ่มนวล เพราะมีการสั่นสะเทือนจากมอเตอร์ที่ต่ำมาก

ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า e-Powertrain ที่ไร้มลพิษ Zero emission ใช้พลังงานที่น้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน ใช้ชิ้นส่วนในระบบขับเคลื่อนน้อย มีการสึกหรอต่ำ เพราะไม่มีชิ้นส่วนที่ทำงานตลอดเวลา ซึ่งก่อให้เกิดความร้อน และแรงเสียดสีต่างๆ เช่น ชิ้นส่วนของระบบระบายความร้อน หรือ ระบบสตาร์ท น้ำมันของเหลวต่างๆ วาล์ว เพลา ลูกเบี้ยว และ ลูกสูบ เป็นต้น

 

รถยนต์ นิสสัน ลีฟ LEAF และ อี-เอ็นวี 200 e-NV200 เป็นตัวอย่างของยานยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนนี้ นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก โดยมียอดขายทั่วโลกกว่า 320,000 คันนับตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก นอกจากนี้รถยนต์ไฟฟ้า อี-เอ็นวี 200 ยังถูกจำหน่ายไปมากกว่า 18,000 คัน โดย นิสสันจะเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ในเร็วๆนี้

ระบบขับเคลื่อน e-POWER อี-เพาเวอร์

เทคโนโลยีที่เปิดตัวในปี พ.ศ.2560 มีความแตกต่างจาก ระบบขับเคลื่อนที่ใช้ไฟฟ้า 100% เครื่องยนต์ e-POWER มีส่วนประกอบสองส่วนคือ มอเตอร์ไฟฟ้า และ เครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเล็ก เครื่องยนต์สันดาปภายในจะช่วยผลิตกระแสไฟฟ้า ให้กับมอเตอร์ไฟฟ้าเมื่อต้องการใช้พลังงาน โดยระบบขับเคลื่อนแบบนี้ไม่ต้องใช้การประจุไฟฟ้าจากสถานีชาร์จภายนอก

ระบบขับเคลื่อน e-POWER มีการปล่อยก๊าซ CO2 น้อยกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน ระบบขับเคลื่อนอี-เพาเวอร์ ให้ความเงียบมากกว่า มีการสั่นสะเทือนที่น้อย และไม่ต้องพึ่งพาสถานีชาร์จไฟฟ้า โดยสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากเครื่องยนต์ นอกจากนี้ผู้ขับขี่สามารถออกรถ เร่ง และลดความเร็ว ได้โดยใช้เพียงแป้นเหยียบเดียวในการขับขี่

 

ระบบขับเคลื่อน e-POWER วางจำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ใน นิสสัน โน้ต Note และ เซเรนา Serena โดยมีประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิง ดีกว่าเครื่องยนต์แบบเดิมถึง 30% 

ระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริด Conventional Hybrid

รถยนต์แบบไฮบริดจะมีสองส่วนหลักๆ คือ มอเตอร์ไฟฟ้า และ เครื่องยนต์สันดาปภายในที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง ทั้งสองแหล่งพลังงานมาพร้อมกับแบตเตอรี เมื่อมีการใช้งานระบบไฮบริด เครื่องยนต์จะเปลี่ยนโหมดมาเป็นการใช้พลังงานไฟฟ้าโดยอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงในขณะที่รถเริ่มเคลื่อนตัวจากหยุดนิ่ง

 

มอเตอร์ไฟฟ้าในระบบนี้จะทำให้รถมีความเร็วได้ถึงประมาณ 40 ไมล์ หรือ ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งหลังจากนั้น เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเข้ามาเสริมการทำงานของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ระบบขับเคลื่อนนี้ ทำให้มีการใช้เชื้อเพลิงที่ประหยัดขึ้น มีการปล่อยก๊าซ CO2 น้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซิน และให้ประสิทธิภาพที่มากขึ้น โดยปัจจุบันระบบขับเคลื่อนแบบไฮบริดของนิสสันถูกติดตั้งในรถยนต์เอนกประสงค์ เอ็กซ์เทรล ไฮบริด X-Trail Hybrid ซึ่งมีปริมาณการปล่อยมลพิษน้อยกว่าเครื่องยนต์แบบที่ใช้น้ำมันเบนซินทั่วๆไปกว่า 28.8%

เครื่องยนต์เบนซิน ที่สามารถแปรเปลี่ยนอัตราของกำลังอัดในกระบอกสูบ Variable-Compression turbo engine

เครื่องยนต์เทอร์โบที่สามารถแปรเปลี่ยนอัตราของกำลังอัดในกระบอกสูบ ได้รับการเปิดตัวในปีนี้ เป็นเครื่องยนต์เทอร์โบที่สามารถปรับเปลี่ยนอัตราส่วนของกำลังอัดได้ ด้วยการปรับอัตราส่วนของกำลังอัดนี้ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการให้พละกำลังและประสิทธิภาพการใช้เชื้อเพลิงได้อย่างดี

เครื่องยนต์ชนิดนี้มีวงจรการเผาไหม้ 2 รูปแบบ ด้วยการเชื่อมต่อระบบอิเลคโทรนิกส์ของวาล์วที่ปรับเปลี่ยนได้ ทำให้เครื่องยนต์สามารถสลับไปมา ระหว่างวงจรจุดระเบิดแบบแอตกินสันและวงจรการเผาไหม้ปกติ ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และให้ความเงียบมากกว่า นอกจากนี้ยังมีระบบที่ใช้การฉีดเชื้อเพลิงแบบ มัลติพอยต์ ไดเร็ค อินเจคชัน Multi-point direct injection ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เครื่องยนต์สามารถสลับเปลี่ยน ระหว่าง ทั้งสองรอบวงจร โดยใช้ความเร็วเครื่องยนต์ปกติและชุดหัวฉีดทั้งสองชุดสามารถทำงานร่วมกันได้ภายใต้การขับขี่ที่มีสมรรถนะเพิ่มขึ้นได้เป็นอย่างดี

 

รถยนต์นิสสัน อัลติมา Altima รุ่นใหม่ ได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์นี้ นิสสันใช้เวลากว่า 20 ปีในการพัฒนาระบบขับเคลื่อนดังกล่าว




AUTO TRICKS

“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เปิด 8 ข้อต้องรู้ ถนอมรถจักรยานยนต์คู่ใจช่วงโควิด-19
Drive Technology Holland เปิดตัวระบบขับเคลื่อนแบบไร้เกียร์
เบาะนั่งนิรภัย เรื่องใหญ่ของเจ้าตัวเล็ก
การเชื่อมต่อระบบสื่อสารในรถ ช่วยให้การขับรถปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Polyplastics พัฒนา DURACON (R) เกรด POM สำหรับใช้งานกับส่วนประกอบของระบบเชื้อเพลิงรถยนต์
ฮุนไดมอเตอร์ร่วมทุนกับ MDGo เพิ่มความปลอดภัยด้านยานยนต์ ผ่านระบบการวิเคราะห์อุบัติเหตุอัจฉริยะ (เอไอ)
เทคโนโลยีจากรถเชฟโรเลต ช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยตลอดฤดูฝนนี้
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ครอสโอเวอร์ที่เป็นได้มากกว่า
สารพัดวิธีเลี่ยงโรคกล้ามเนื้อที่เกิดจากการขับรถ
ฟอร์ดแนะตัวช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ กับเทคโนโลยี “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)” ช่วยให้ปลอดภัยจากสถานการณ์คับขัน
เชฟโรเลตเผย 10 เคล็ดลับของการขับรถในเวลากลางคืนให้ปลอดภัย article
ช่องทางลัด!! เลี่ยงรถติด...ถนนลาดพร้าว article
เอาแล้ว !!! ทำไงดีเมื่อรีโมทรถยนต์มีปัญหา article
เตรียมพร้อม เข้าสู่ยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้า ... มารู้เคล็ดลับการชาร์จที่ถูกต้อง!! article
ระวัง !!! พวงมาลัยรถยนต์ สกปรกมากกว่าฝารองนั่งโถส้วมถึง 4 เท่า article
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 
สมรรถนะและความปลอดภัย..ลงตัว
ฟอร์ด เตรียมทดลองนำวัสดุแห่งอนาคต “กราฟีน” ช่วยเสริมสมรรถนะชิ้นส่วนรถยนต์
ขับขี่ปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติจากฟอร์ด
แนะเคล็ดลับประหยัดน้ำมันเพื่อการใช้รถที่คุ้มค่า article
ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนกันได้รึยังจ๊ะ article
เชฟโลเลตแนะนำ 10 วิธีในการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง



Copyright © 2018 All Rights Reserved.