วันที่ 10-11 ตุลาคม 2561 : รณชิตได้รับชวนจาก ฟอร์ด ประเทศไทย ให้ไปลองขับ “ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ใหม่” รถยนต์อเนกประสงค์ขนาดกลาง ในเส้นทาง กรุงเทพ-เขาค้อ-ทุ่งแสลงหลวง-ทุ่งพญาเมืองเลน-แล้วกลับมากรุงเทพฯ โดยมีคุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กรของฟอร์ด เป็นเจ้าภาพ 

• คุณศุภรางศุ์ อนุชปรีดา ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ฟอร์ด ประเทศไทย

• จัดมาขบวนใหญ่

งานนี้ก็จัดมาเต็มขบวน ตามที่มีจำหน่ายทั้งหมด 4 รุ่น พร้อมเกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด โดยลูกพี่ใหญ่เลยก็คือ

• - รุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ ขับเคลื่อน 4 ล้อราคา 1,799,000 บาท
• - ตามด้วยรุ่นไทเทเนี่ยม พลัส เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,599,000 บาท
• - แล้วรุ่นไทเทเนี่ยม เครื่องดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ ราคา 1,439,000 บาท
• - และปิดขบวนด้วยรุ่นเทรนด์ เครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร เทอร์โบ ขับเคลื่อน 2 ล้อ เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด ราคา 1,299,000 บาท

 

• เข้าคอร์สสั้นก่อนเดินทาง

• สตาร์ทที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี

สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล 2.0 ลิตร ไบเทอร์โบ Bi-turbo Diesel Engine นั้นทรงพลังถึง 213 แรงม้า กับแรงบิดที่ 500 นิวตันเมตร ส่วนเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร เทอร์โบเดี่ยว ให้กำลัง 180 แรงม้า กับแรงบิดที่ 420 นิวตันเมตร ใช้เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีดทั้งคู่ เพียงแต่รุ่นท็อปเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่บริหารจัดการถ่ายทอดกำลังได้ตามสภาพภูมิประเทศ หรือตามสภาพถนน Terrain Management System i4WD

• สบายๆช่วงไฮเวย์

มื้อเที่ยงวันนี้ก็ไก่ย่างวิเชียรบุรีไปตามฟอร์ม รณชิตได้ขับรุ่นท็อปก่อนนะครับ ซึ่งก็มีของครบพบของถูก ลดหลั่นกันไปตามราคาจำหน่าย จึงขอแจกแจงรวมๆกันไปเลยนะครับ นับตั้งแต่ตอนขนสัมภาระขึ้นรถ ถ้าเรามีกุญแจรถเหน็บไว้กับตัวเอง แค่ยื่นเท้าเข้าไปใต้ท้ายรถ ประตูท้ายไฟฟ้าจะเปิดแบบแฮนด์ฟรี คือเปิดออกเองโดยอัตโนมัติ การขับขี่ช่วงไฮเวย์ 230 กม. เครื่องไบเทอร์โบก็ให้อัตราเร่งได้อย่างรวดเร็ว จึงลองเล่นๆไปซะ 180 กม./ชม.สนุกแปดแสนกว่าที่เคยขับรุ่นก่อน 

 

• ระบบซิงค์ 3 จอขนาด 8 นิ้ว

• ปุ่มพุทสตาร์ท

พอลดความเร็วลงมาระดับปกติ ก็ได้ทดลองใช้งานระบบซิงค์ 3 (SYNC 3) ซึ่งสามารถจดจำเสียงและสั่งงานเสียงด้วยภาษาไทยได้ ช่วยโทรออก ฟังเพลง หรือเรียกใช้เมนูอื่นๆ ได้ โดยไม่ต้องละสายตาจากถนน รวมทั้งยังรองรับ Apple Carplay และ Android Auto พร้อมบลูทูธ จอทัชสกรีน ฟูลคัลเลอร์ ขนาด 8.0 นิ้ว และกล้องมองหลัง รวมทั้งระบบแผนที่นำทางโดยใช้สัญญาณจากดาวเทียม ซึ่งมันจะเก่งเมื่อต้องเดินทางในพื้นที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์

• ไบเทอร์โบ 500 นิวตันเมตร

• พวงมาลัยไฟฟ้า

• ชักแถวขึ้นเขาค้อ

ช่วงขึ้นไปยังอำเภอเขาค้อ ก็เนียนๆด้วยแรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร คือปรู๊ดๆกว่าดีเซลธรรมดา เข้าขากันดีกับระบบพวงมาลัยไฟฟ้าที่ควบคุมง่าย ช่วงล่างแบบคอยล์สปริงพร้อมวัตต์ลิงค์ การทรงตัวและการเกาะถนนดี ซึ่งก็ซอกแซกไปตามทางลาดชันไปถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ก่อนไปจบที่ แทนรักทะเลหมอกรีสอร์ต และนั่งแลกเปลี่ยนน้ำลายแห่งความประทับใจให้กันและกันฟัง ระหว่างรับประทานมื้อค่ำ

• เข้าทุ่งแสลงหลวง

• เปิด/ปิดไฟอัตโนมัติ

• ตั้งแคมป์หนีเสือ (มั้ง?)

วันถัดมา ได้ไปอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง และทุ่งนางพญาเมืองเลน คราวนี้ก็ได้ลองใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ Terrain Management System i4WD ที่หมุนปุ่มเลือกโหมดการขับขี่ตามสภาพถนน ช่วยให้การขับขี่แบบออฟโรดบนระยะทางราว 10 กม.เป็นเรื่องง่าย โดยมีโหมดตั้งค่าการขับขี่ 4 แบบ คือ 1.พื้นผิวทั่วไป Normal 2.พื้นหิมะ/โคลน/หญ้า Snow/Mud/Grass 3.พื้นทราย Sand และ 4.พื้นหินขรุขระ Rock โดยแต่ละโหมดจะปรับเปลี่ยนการตั้งค่า อัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง และระบบควบคุมการเกาะถนนต่างกัน 

• ตะลอนตามทางออฟโรด

นอกจากนี้ก็ยังมีระบบเพื่อความปลอดภัยอื่นๆอีกนะครับ เช่น ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB) พร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน Pedestrian Detection และระบบตรวจจับยานพาหนะ Vehicle Detection บริเวณรอบตัวรถ เพื่อหยุดรถ ช่วยลดอัตราการชนท้ายและการชนคนเดินถนนลง มีระบบตรวจจับลมยาง ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทาง ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ ระบบเตือนการชนด้านหน้า และอื่นๆ ตามราคาของแต่ละรุ่นนั่นเองคร้าบ 

• อำลาเขาค้อ

• สวัสดีครับโผม