• ในบู๊ธฮอนด้า
ฮอนด้า จัดแสดง เทคโนโลยีเพื่อการเคลื่อนที่ (Mobility) โรโบติกส์ (Robotics) และการจัดการพลังงาน (Energy Management) อีกทั้งเสนอแนวคิดของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อ ในงานแสดงเทคโนโลยี และสินค้าอิเลกทรอนิคส์ เพื่อผู้บริโภคระดับโลก หรืองาน CES 2019 (The Consumer Electric Show 2019) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 8 - 11 มกราคม 2562 ที่ลาสเวกัส
• Honda Autonomous Work Vehicle ต้นแบบออฟโรดขับเคลื่อนอัตโนมัติ
Honda Autonomous Work Vehicle ผสานคุณสมบัติรถ ATV (All-Terrain Vehicle) และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติเข้าด้วยกัน ได้รับการออกแบบโดยศูนย์วิจัยและพัฒนา ฮอนด้า
อาร์ แอนด์ ดี ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อใช้ในงานก่อสร้าง เกษตรกรรม ภาระกิจค้นหาและช่วยชีวิต ตลอดจนการดับเพลิง
• รับภารกิจฉุกเฉิน
• ช่วยงานในเหมือง
Honda Autonomous Work Vehicle ใช้ช่วงล่างรถ ATV ของฮอนด้า ซึ่งเป็นที่ยอมรับมายาวนานกว่า 30 ปี มีจุดเด่นในการบุกตะลุยพื้นที่ทุรกันดารที่เข้าถึงยาก ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแข็งแรงและสมบุกสมบัน
• ใช้ในงานก่อสร้าง
• กวาดหิมะเปิดทาง
ระบบจีพีเอสและระบบขับขี่อัตโนมัติที่ทำงานด้วยเซ็นเซอร์ สามารถนำทางยานพาหนะได้ในทุกสภาพแวดล้อม มีแท่นยึดอุปกรณ์ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ไม่จำกัด และมีแหล่งพลังงานที่ติดตั้งอยู่ในตัวรถ
• ค้นหาและเก็บกู้
นับตั้งแต่เผยโฉมครั้งแรกในงาน CES 2018 ในชื่อ 3E-D18 ฮอนด้าได้ทำงานร่วมกับพันธมิตร บริษัทผู้ให้บริการด้านพลังงานแสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ในรัฐนอร์ทแคโรไลนา หน่วยงานควบคุมไฟป่าในโคโลราโดและวิทยาลัยด้านวิทยาศาสตร์การเกษตรและสิ่งแวดล้อมในแคลิฟอร์เนีย เพื่อทดสอบและประเมินผลการใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
• รักษาความปลอดภัย
SAFE SWARM™ คือ แนวคิดในการสร้างสังคมปลอดอุบัติเหตุให้เกิดขึ้นจริง มีจุดประสงค์ให้รถยนต์สามารถสื่อสารกันผ่านระบบไร้สายและการจราจรมีความลื่นไหล เหมือนการเคลื่อนไหวของฝูงปลา สามารถติดต่อสื่อสารกับรถยนต์คันอื่นที่อยู่รอบข้าง และแชร์ข้อมูลกัน เช่น ตำแหน่งและความเร็วของรถ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่หรือระบบขับขี่อัตโนมัติสามารถนำข้อมูลมาประมวลผลร่วมกับเซ็นเซอร์ที่ติดตั้งภายในรถ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในสถานการณ์ที่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ การเชื่อมโยงผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคนเข้าด้วยกัน จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมในการเดินทางที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
• สาธิตการเชื่อมต่อสื่อสารในฮอนด้า พาสปอร์ต
หลังการเปิดตัวแนวคิด SAFE SWARM™ ครั้งแรกในงาน CES 2017 ฮอนด้าได้ทำการทดสอบในสนามปิด และทำการประเมินแนวคิดนี้ในสภาพแวดล้อมการขับขี่จริงที่ 33 Smart Mobility Corridor ในรัฐโอไฮโอ ซึ่งจะเป็นถนนที่มีการเชื่อมต่อการสื่อสารระหว่างรถยนต์และระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการจราจรแบบต่อเนื่องที่ยาวที่สุดในโลก
• เชื่อมต่อได้สารพัด
ฮอนด้าพัฒนาเทคโนโลยีด้านโรโบติกส์ในหลายรูปแบบ ให้สอดคล้องกับโลกอนาคตที่อุปกรณ์หุ่นยนต์จะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยเหลือและเสริมศักยภาพการใช้ชีวิตของมนุษย์
• หุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองในสถานที่สาธารณะ
Honda P.A.T.H. (Predicting Action of the Human) Bot คือ หุ่นยนต์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเองในสถานที่สาธารณะโดยไม่รบกวนผู้คนรอบข้าง มีกล้องและเซ็นเซอร์ติดตั้งในตัว ใช้ในการระบุตำแหน่งของตัวเองและจดจำสภาพแวดล้อมรอบข้าง ทำให้สามารถเคลื่อนที่ไปยังที่หมายต่างๆ ได้ โดยไม่ชนสิ่งกีดขวางและสามารถเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดได้ด้วยตัวเอง
• Honda Omni Traction Drive System ระบบขับเคลื่อนรอบทิศทาง
ฮอนด้ายังเผยโฉม Honda Omni Traction Drive System ซึ่งเป็นเทคโนโลยีควบคุมการทรงตัว ที่มาพร้อมระบบล้อขับเคลื่อนรอบทิศทาง ซึ่งพัฒนามาจากการค้นคว้าและวิจัยด้านโรโบติกส์ของฮอนด้า ซึ่งอยู่ในหุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ของฮอนด้า อาซิโม (ASIMO) ซึ่งช่วยให้ ยูนิ-คับ (UNI-CUB) พาหนะส่วนบุคคลสามารถเคลื่อนที่ได้รอบทิศทางอย่างเป็นธรรมชาติ
• Honda Omni Traction Drive System ใช้ใน S-CART พาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทำงานในโรงงานหรือโกดัง
เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านโรโบติกส์ สามารถนำไปใช้ได้กับผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้มากมาย
ฮอนด้าจึงได้ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อสร้างคุณค่าใหม่ๆ ในด้านเทคโนโลยีเพื่อการเคลื่อนที่ (Mobility) และการขนส่ง โดยประเดิมความร่วมมือครั้งแรกกับ นีเด็ค-ชิมโป คอร์ปอเรชั่น (Nidec-Shimpo Corporation) บริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเครื่องจักร อุปกรณ์ ส่วนประกอบยานยนต์ และยานพาหนะต่างๆ ของประเทศญี่ปุ่น โดยนำ Honda Omni Traction Drive System ไปใช้ใน S-CART ซึ่งเป็นพาหนะขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่ใช้เพื่อการทำงานในโรงงานหรือโกดัง
ฮอนด้ายังเตรียมเผยโฉม Wireless Vehicle-to-Grid (V2G) ระบบบริหารจัดการพลังงานแบบสองทางที่สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และสร้างคุณค่าใหม่ๆ ด้วยกระแสความนิยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเติบโต ทำให้กริดไฟฟ้าหรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อสำหรับการจ่ายไฟฟ้าจากผู้ผลิตต่างๆ ไปยังผู้บริโภคที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อความต้องการ
• ระบบจัดการพลังงานใหม่นี้ การชาร์จและปล่อยกระแสไฟฟ้า ทำได้อย่างง่ายเพียงแค่นำรถยนต์จอดบนแผ่นชาร์จ
ฮอนด้าได้ทำการพัฒนาระบบนี้ร่วมกับ WiTricity ผู้บุกเบิกด้านการส่งพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย Wireless Vehicle-to-Grid ของฮอนด้า จะช่วยสร้างสมดุลระหว่างความต้องการใช้ไฟฟ้าและการผลิตไฟฟ้าอย่างเป็นระบบ โดยจะทำการจ่ายไฟเข้าสู่รถในช่วงเวลาที่ปริมาณการผลิตไฟฟ้าสูงกว่าการบริโภคไฟฟ้า และปล่อยกระแสไฟฟ้าออกจากรถสู่กริดไฟฟ้าเมื่อปริมาณการบริโภคไฟฟ้ามีสูงกว่าการผลิต ฮอนด้ามีความสนใจที่จะร่วมมือกับบริษัทด้านพลังงานต่างๆ ทั้งบริษัทรายใหญ่ที่เป็นผู้รวบรวมความต้องการใช้ไฟฟ้า และผู้ผลิตไฟฟ้า เพื่อให้ระบบนี้สามารถนำไปใช้งานจริงได้ในสังคม