ReadyPlanet.com
dot




เชฟโรเลตเผย 10 เคล็ดลับของการขับรถในเวลากลางคืนให้ปลอดภัย article

เชฟโรเลตเผย 10 เคล็ดลับของการขับรถในเวลากลางคืนให้ปลอดภัย

Chevrolet

จากการวิจัยของผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย ระบุว่า การขับรถท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มืดมิดในเวลากลางคืนอาจเป็นอันตรายต่อผู้ขับขี่ได้ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุ ได้แก่ ภาวะของสายตาและการมองเห็นในเวลากลางคืน ปัญหาการจราจรแออัดในชั่วโมงเร่งด่วน สภาพร่างกายที่อ่อนเพลียและเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ และการขับรถในเวลากลางคืนนั้นมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตสูงกว่าเวลาอื่นๆ ถึง 3 เท่า

เชฟโรเลต ประเทศไทยได้พัฒนาและติดตั้งเครื่องมือในรถกระบะ โคโลราโด และรถอเนกประสงค์ เทรลเบลเซอร์ (ในรุ่นแอลทีแซดและรุ่นที่สูงขึ้น) เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยมีไฟเบรกท้ายรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีหลอดไฟแอลอีดี รวมถึงไฟส่องสว่างแอลอีดีขณะขับขี่ในเวลากลางวัน ทำให้สามารถมองเห็นรถยนต์ได้อย่างชัดเจนในทุกช่วงเวลาทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน

ตัวอย่างเช่น ไฟเบรกท้ายรถยนต์แบบแอลอีดีสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการชนทางด้านหลังของรถยนต์ได้ เนื่องจากไฟส่องสว่างจะสว่างเต็มที่ เร็วกว่าหลอดไฟประเภทหลอดไส้ร้อนแบบธรรมดา (Incandescent Bulb) เมื่อขับรถด้วยความเร็วสูงจะใช้ระยะเบรกมากกว่า 60 เมตร ดังนั้น การที่รถยนต์ของคุณมีไฟเบรกแบบแอลอีดีจะช่วยเตือนให้ผู้ที่ขับรถยนต์ตามหลังรถยนต์ของคุณเห็นรถของคุณได้เร็วขึ้น ซึ่งช่วยให้ระยะห่างในการหยุดรถมีมากขึ้น 6 เมตร จากข้อมูลของหน่วยงานด้านความปลอดภัยทางจราจรบนถนนหลวงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา (National Highway Traffic Safety Administration - NHTSA) ระบุว่า เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้มาก

นอกจากรถยนต์ที่ติดตั้งไฟเบรกแบบแอลอีดีแล้ว เชฟโรเลตยังมีเคล็ดลับ 9 ข้อสำหรับการขับรถยนต์ในเวลากลางคืนอย่างไร ให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

1. หรี่ไฟที่แผงหน้าปัดรถยนต์ของคุณ

หากรถยนต์ของคุณมีสวิตช์หรี่ไฟแผงหน้าปัด คุณควรใช้สวิตช์นี้ เพราะความสว่างที่เกินความจำเป็นของแผงหน้าปัดแอลอีดีและหน้าจอทัชสกรีนขนาดใหญ่ที่แสดงผลระบบอินโฟเทนเมนท์สามารถรบกวนผู้ขับทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลง และการหรี่ไฟที่แผงหน้าปัดช่วยกำจัดแสงสะท้อนบนกระจกได้ช่วยให้ตาของคุณสามารถปรับแสงให้เหมาะสมกับความมืดบนเส้นทางข้างหน้า ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น ในขณะที่คุณขับรถยนต์ไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แสงสว่างอื่นๆ ภายในรถยนต์ อย่างเช่น ไฟส่องสว่างในห้องโดยสารสามารถรบกวนทัศนวิสัยของผู้ขับได้ ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรปิดไฟเหล่านั้นขณะขับรถยนต์

2. ควรใช้ไฟหน้ารถยนต์อย่างเหมาะสม

เมื่อขับรถไปต่างจังหวัด ผู้ขับมีความจำเป็นที่จะต้องใช้ไฟสูง แต่ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ควรเปลี่ยนเป็นไฟต่ำเมื่อมีรถยนต์สวนมา นอกจากนี้คุณควรใช้ไฟต่ำเสมอเมื่อขับรถตามหลังรถยนต์คันอื่น มิเช่นนั้นจะทำให้คนขับรถคันข้างหน้าของคุณมองไม่เห็นเส้นทาง และสำหรับการขับรถยนต์ในเมืองโดยทั่วไปผู้ขับมักจะลืมเปิดไฟหน้ารถยนต์ ควรตรวจสอบให้แน่ใจเสมอว่าทำการเปิดไฟหน้าก่อนจะขับรถยนต์รวมทั้งในช่วงเวลาเช้ามืดและเวลาเย็นก่อนค่ำ

3. ควรใส่แว่นตากันแสงสะท้อน

แว่นตา ทั้งแว่นสายตาที่จักษุแพทย์สั่งหรือแว่นอื่นๆ นั้นเพิ่มพื้นผิวที่มีการสะท้อนแสงระหว่างสายตาของผู้ขับและถนนได้ ดังนั้น การเลือกใส่แว่นตาที่เหมาะสมจะช่วยทำให้ทัศนวิสัยในการมองเห็นในเวลากลางคืนดีขึ้น ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการเลือกแว่นตาที่ใช้เลนส์ที่เคลือบสารกันสะท้อน (Anti-reflective coating หรือ AR-coating) นี้จะช่วยลดแสงที่เกิดจากการสะท้อนภายในผิวเลนส์ของแว่น และปล่อยให้แสงผ่านเข้ามาได้มากขึ้น

4. ควรรักษาความสะอาดของรถยนต์

ควรทำความสะอาดไฟหน้า ไฟท้าย ไฟสัญญาณต่างๆ กระจกหน้าต่าง และกระจกรถยนต์ให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ โดยควรทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง หรืออาจจะบ่อยกว่านั้นหากมีความจำเป็นต้องใช้รถยนต์ กระจกหน้ารถยนต์ที่ดูสะอาดในช่วงกลางวัน อาจเผยให้เห็นรอยขีดข่วนที่อาจทำให้เกิดแสงสะท้อนในเวลากลางคืน ควรพกผ้าไมโครไฟเบอร์หรือหนังสือพิมพ์ไว้ในรถยนต์ เพื่อเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกที่ติดกระจกหน้ารถยนต์และกระจกหน้าต่าง ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและจับผิวด้านในของกระจกหน้ารถยนต์ กระจกหน้าต่างด้านข้าง หรือกระจกอื่นๆ ด้วยมือเปล่าของคุณ เพราะความมันจากผิวของคุณอาจจะทำให้กระจกรถยนต์เป็นรอยเปื้อนได้ ซึ่งจะเห็นเป็นฝ้าที่กระจก เมื่อมีแสงไฟจากภายนอกหรือภายในรถยนต์มากระทบ

5. ควรปรับไฟหน้ารถยนต์และกระจกรถยนต์ให้พร้อมอยู่เสมอ

แม้ว่าไฟหน้ารถยนต์จะได้รับการปรับตั้งมาอย่างถูกต้องจากโรงประกอบรถยนต์แล้วก็ตาม แต่การมีช่างเทคนิคคอยทำการตรวจสอบการฉายลำแสงจากไฟหน้ารถยนต์ เพื่อให้มั่นใจว่าไฟหน้ารถยนต์จะส่องถนนในทิศทางที่ถูกต้อง โดยที่ไม่แยงตาผู้ขับรถสวนมา เช่นเดียวกันคุณสามารถหลีกเลี่ยงสภาวะ “มองไม่เห็น” โดยการปรับกระจกมองข้างรถยนต์ของคุณลงเล็กน้อย เพื่อช่วยให้คุณมองเห็นรถยนต์ที่อยู่ด้านหลังโดยไม่มีแสงจ้าจากไฟหน้าของรถคันดังกล่าวสะท้อนมาเข้าตา นอกจากนี้ การปรับกระจกมองหลังภายในรถยนต์ไปที่โหมดกลางคืน หรือ Auto Dim ซึ่งทำให้กระจกมืดเพื่อป้องกันแสงจ้า

6. ควรใช้ความเร็วลดลงและทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากขึ้น

ผู้ขับควรชะลอความเร็วในการขับรถยนต์และทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากขึ้นหากขับรถในความมืด การกะความเร็วและระยะของรถคันหน้าในเวลากลางคืนเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากการรับรู้ความใกล้ไกล การจำแนกสี และความสามารถในการมองเห็นรอบๆ จะตอบสนองช้าลงหากอยู่ในความมืด และปฏิกิริยาการตอบสนองของผู้ขับประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ขึ้นอยู่กับการมองเห็น แม้ว่าไฟหน้ารถยนต์จะส่องแสงสว่างให้มองเห็นถนนด้านหน้า แต่ไฟต่ำทั่วไปมีระยะส่องสว่างจากด้านหน้ารถยนต์ของคุณ ตั้งแต่ 50-75 เมตร ขณะที่ไฟสูงจะมีระยะส่องแสงสว่างประมาณ 100-150 เมตร เมื่อขับรถยนต์ด้วยความเร็ว ระยะหยุดรถที่ปลอดภัยจะต้องใช้มากกว่า 60 เมตร

7. ควรระมัดระวังสัตว์ต่างๆ บนถนน

การขับรถยนต์ในเวลากลางคืนบางครั้งผู้ขับอาจต้องพบเจอและชนสัตว์ต่างๆ ที่อยู่บนถนน ในเมืองนั้นคุณอาจพบเจอสุนัขจรจัด อย่างไรก็ตาม ตามถนนในต่างจังหวัดคุณอาจพบเจอสัตว์ที่มีขนาดใหญ่กว่า เช่น วัวป่าหรือแม้แต่ช้าง ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รถยนต์ได้รับความเสียหายร้ายแรง แม้ว่าไฟสูงหน้ารถยนต์ของคุณไม่สามารถส่องสว่างได้ไกลเกินกว่าระยะทางที่ใช้หยุดรถหรือบริเวณรอบๆทางโค้ง แต่คุณก็สามารถหลีกเลี่ยงการชนสัตว์ได้ โดยสังเกตจากไฟหน้ารถยนต์ของคุณที่สะท้อนออกมาจากดวงตาของพวกสัตว์ จุดสว่างเล็กๆ เหล่านี้มักจะปรากฎอยู่บนถนนทำให้ผู้ขับมีเวลามากขึ้นในการชะลอหรือหยุดรถยนต์ได้ทันเวลา เมื่อพบเจอกับสัตว์ใหญ่ที่อยู่ใกล้ถนนหรือบนถนน วิธีที่ดีที่สุดคือควรขับรถยนต์ให้ช้าลงโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนเลนหรือขับรถยนต์ออกนอกเลน ตัวอย่างเช่น กวางมักจะชอบติดตามไฟหน้ารถยนต์และเคลื่อนที่ไปอยู่ด้านหน้ารถยนต์ของคุณ ดังนั้น การหักเลี้ยวพวงมาลัยอาจเพิ่มความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ ควรขับรถยนต์อย่างระมัดระวังและหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีสัตว์ต่างๆ สัญจรบนถนน

8. ไม่ควรขับรถยนต์ขณะที่ร่างกายไม่พร้อม

การดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอลล์ ทานยาที่แพทย์สั่งจ่าย และสมุนไพรบางชนิดอาจทำให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ลดลง เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์เป็นเครื่องดื่มชนิดเดียวที่ทำให้ผู้ดื่มเกิดอาการง่วงนอนและอ่อนเพลียจากฤทธิ์กล่อมประสาท การดื่มแอลกอฮอลล์ยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจากการชนร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตและมีอัตราการเสียชีวิตเกินกว่าครึ่งหนึ่งของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้ขับควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ขณะที่คุณขับรถยนต์อยู่ การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายต่อดวงตา ซึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อการสายตาของผู้ขับขี่ หนึ่งในผลกระทบจากสารนิโคตินในบุหรี่ยับยั้งการผลิตสารเคมีสำคัญที่ช่วยในการมองเห็นในเวลากลางคืน จากการศึกษา ระบุว่า ก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากควันบุหรี่ทำให้การมองเห็นลดลง

9. ห้ามขับรถขณะที่ร่างกายเหนื่อยล้า

ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า การขับรถยนต์ในขณะที่ผู้ขับง่วงนอนเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนถนนได้มากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์ อุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับความเหนื่อยล้าส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน และความเหนื่อยล้าเป็นปัจจัยสำคัญเกือบ 1 ใน 3 ของอุบัติเหตุรถชนในต่างจังหวัด คนทั่วไปไม่รู้สึกเหนื่อยจากการขับรถยนต์ แต่พวกเขาน่าจะเหนื่อยล้าเมื่อขับรถเป็นเวลานานๆ การทำงานหนักหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ ควรทำตามคำแนะนำเหล่านี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา

  • ควรนอนหลับให้เพียงพอก่อนที่จะขับรถยนต์
  • ไม่ควรขับรถยนต์เกิน 8-10 ชั่วโมงต่อวัน
  • ควรหยุดพักเป็นระยะ อย่างน้อยทุก 2 ชั่วโมง
  • สลับกันขับหากเป็นไปได้า
  • ไม่ควรขับรถยนต์ในเวลาที่คุณรู้สึกง่วงนอน
  • หากคุณรู้สึกง่วงนอนให้หาสถานที่ปลอดภัยในการจอดรถยนต์ และงีบหลับประมาณ 15 นาที
  • ควรรักษาความชุ่มชื้นในร่างกายอยู่เสมอด้วยการดื่มน้ำให้เพียงพอ และทานของว่างที่ให้พลังงานสูง

ถ้าทำได้ทั้งหมดตามที่บอกมา รับรองได้ว่าท่านผู้อ่านจะขับรถในเวลากลางคืนไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัยแน่นอน

 




AUTO TRICKS

“ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์” เปิด 8 ข้อต้องรู้ ถนอมรถจักรยานยนต์คู่ใจช่วงโควิด-19
Drive Technology Holland เปิดตัวระบบขับเคลื่อนแบบไร้เกียร์
เบาะนั่งนิรภัย เรื่องใหญ่ของเจ้าตัวเล็ก
การเชื่อมต่อระบบสื่อสารในรถ ช่วยให้การขับรถปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น
Polyplastics พัฒนา DURACON (R) เกรด POM สำหรับใช้งานกับส่วนประกอบของระบบเชื้อเพลิงรถยนต์
ฮุนไดมอเตอร์ร่วมทุนกับ MDGo เพิ่มความปลอดภัยด้านยานยนต์ ผ่านระบบการวิเคราะห์อุบัติเหตุอัจฉริยะ (เอไอ)
เทคโนโลยีจากรถเชฟโรเลต ช่วยให้ผู้ขับขี่ปลอดภัยตลอดฤดูฝนนี้
มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ใหม่ ครอสโอเวอร์ที่เป็นได้มากกว่า
สารพัดวิธีเลี่ยงโรคกล้ามเนื้อที่เกิดจากการขับรถ
ฟอร์ดแนะตัวช่วยลดความเสี่ยงบนท้องถนน
ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ กับเทคโนโลยี “ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING)” ช่วยให้ปลอดภัยจากสถานการณ์คับขัน
ช่องทางลัด!! เลี่ยงรถติด...ถนนลาดพร้าว article
เอาแล้ว !!! ทำไงดีเมื่อรีโมทรถยนต์มีปัญหา article
เตรียมพร้อม เข้าสู่ยุครถยนต์พลังงานไฟฟ้า ... มารู้เคล็ดลับการชาร์จที่ถูกต้อง!! article
ระวัง !!! พวงมาลัยรถยนต์ สกปรกมากกว่าฝารองนั่งโถส้วมถึง 4 เท่า article
มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต 
สมรรถนะและความปลอดภัย..ลงตัว
ฟอร์ด เตรียมทดลองนำวัสดุแห่งอนาคต “กราฟีน” ช่วยเสริมสมรรถนะชิ้นส่วนรถยนต์
ขับขี่ปลอดภัย ด้วยระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติจากฟอร์ด
แนะเคล็ดลับประหยัดน้ำมันเพื่อการใช้รถที่คุ้มค่า article
ถึงเวลาที่จะเปลี่ยนใบปัดน้ำฝนกันได้รึยังจ๊ะ article
โอเคนะ อย่าถามมาก ปวดหัวนะว้อยส์!! นิสสัน เผยจุดเด่นของเทคโนโลยีเครื่องยนต์ และระบบขับเคลื่อน
เชฟโลเลตแนะนำ 10 วิธีในการขับรถผ่านถนนที่มีน้ำท่วมขัง



Copyright © 2018 All Rights Reserved.