• มร.เซิร์จ กริซิน ผู้จัดการการแข่งขัน FIA Formula E ของมิชลิน
มิชลิน ผู้สนับสนุนยางรถยนต์อย่างเป็นทางการให้กับการแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้า FIA Formula E ตั้งแต่เริ่มต้นจัดการแข่งขันเมื่อหลายปีที่ผ่านมา พาชมการแข่งขันสนามที่ 5 ของฤดูกาล 2018/2019 ซึ่งถูกจัดขึ้นบริเวณฮาร์เบอร์ ฟร้อนท์ ของฮ่องกง ซึ่งได้รับการปรับเป็นเซอร์กิตเฉพาะกิจ ในเขตเศรษฐกิจสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมโชว์ยางรถสปอร์ตรุ่นล่าสุดที่ใช้ในการแข่งขัน
ฟอร์มูล่า อี การแข่งขันรถยนต์ไฟฟ้าที่นั่งเดียว บนเส้นทางสำคัญของเมืองใหญ่ (สตรีทเซอร์กิต) ในทุกภูมิภาคของโลก โดยสมาพันธ์แข่งรถนานาชาติ (FIA) เพื่อหวังลดการปล่อยมลภาวะ โดยนำเสนอผ่านการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รถแข่ง Formula E รุ่นแรกเปิดตัวในงาน Frankfurt Motor Show 2013 ใช้แข่งขันตั้งแต่ฤดูกาลแรกจนถึงฤดูกาลที่ผ่านมา โดยที่นักแข่งยังต้องเปลี่ยนรถแข่งระหว่างทำการแข่งขัน จากข้อจำกัดทางเทคโนโลยี
กระทั้งล่าสุดในฤดูกาล 2018/2019 มีการเปลี่ยนมาใช้รถแข่งเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ได้รับการปรับปรุงให้มีกำลังถึง 250 กิโลวัตต์ (355bhp) สามารถขับขี่อย่างเต็มกำลังตลอดการแข่งขันที่ใช้ระยะเวลา 45 นาที บวกอีก 1 รอบสนาม (1.9-3.4 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับระยะทางของแต่ละสนาม) โดยที่นักแข่งไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนรถอีกต่อไป
มิชลิน ให้การสนับสนุนตั้งแต่ริเริ่มจัดการแข่งขันในปี 2013 เสมือนสนามแข่งขันแต่ละแห่งเป็นห้องวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าในปัจจุบันและอนาคต ยางมิชลิน ไพลอต สปอร์ต 4 รุ่นล่าสุดที่ใช้สำหรับการแข่งขันที่ใช้กับรถแข่งฟอร์มูล่า อี ฤดูกาลที่ 5 นี้ มีทั้งขนาดและลายดอกยางที่ใกล้เคียงกับยางที่ใช้กับรถยนต์บนถนนมาก ได้รับการออกแบบจากทีมงานเดียวกัน จึงเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีจากการแข่งขันไปสู่ยางรถยนต์ทั่วไปทำได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น
ในฤดูกาลนี้สามารถลดน้ำหนักยางที่ใช้ในการแข่งขันลงได้อีก 25 เปอร์เซนต์ ลดแรงเสียดทานลง 16 เปอร์เช็นต์ เพิ่มความทนทานให้ใช้งานได้นานขึ้น สร้างแรงยึดเกาะอย่างเต็มประสิทธิภาพ บนพื้นผิวทางวิ่งของภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลายทั้งแห้งและเปียก รวมถึงลดปริมาณการใช้ หรือแทบไม่ต้องเปลี่ยนยางเลยในแต่ละสนาม (ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ของแต่ละทีม)
ในการแข่งขัน ฟอร์มูล่า อี สนามล่าสุด ที่ฮ่องกง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 มีนาคม 2562 จัดขึ้นบริเวณ ฮาร์เบอร์ฟร้อนท์ ของฮ่องกง มีผู้ชมจำนวนมากมาเป็นกำลังใจให้กับนักแข่งทั้ง 22 คน จาก 11 ทีมแข่งนานาชาติ ตลอดการแข่งขันกว่าหนึ่งชั่วโมง ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรปรวนครึมฟ้าครึมฝน