• แอคคอร์ด ใหม่ เจนเนอเรชันที่ 10
วันที่ 19 มีนาคม 2562 : บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด แนะนำ แอคคอร์ด ใหม่ เจนเนอเรชันที่ 10 สู่ตลาดประเทศไทย
• คุณพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ
ฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ มาพร้อม 2 ขุมพลังการขับเคลื่อน ได้แก่
• ครื่องยนต์ 1.5 ลิตร
ครื่องยนต์ 1.5 ลิตร Di VTEC TURBO กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 243
นิวตัน-เมตร เทคโนโลยีไดเรคอินเจคชัน (Direct Injection) ฉีดจ่ายเชื้อเพลิงเข้าสู่ห้องเผาไหม้โดยตรง ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT ให้สมรรถนะการขับขี่มากกว่าเครื่องยนต์ 2.4 ลิตร ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ 16.4 กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรในรุ่นเดิม
และรองรับน้ำมัน E85 ได้
• ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD)
ระบบขับเคลื่อน Sport Hybrid Intelligent Multi Mode Drive (i-MMD) เป็นการทำงานของเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตร Atkinson-Cycle DOHC i-VTEC 4 สูบ 16 วาล์ว ผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว เกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่องไฟฟ้า (E-CVT) และแบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน ให้กำลังสูงสุดทั้งระบบได้ 215 แรงม้า
สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้หลายโหมด ได้แก่
• โหมดการขับขี่ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า (EV Drive Mode)
• โหมดการขับขี่ด้วยระบบไฮบริด (Hybrid Drive Mode)
• โหมดการขับขี่ด้วยเครื่องยนต์ (Engine Drive Mode)
แถมด้วยโหมดการขับขี่แบบสปอร์ต (Sport Drive Mode) ที่สามารถใช้งานได้โดยกดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์ เพื่อความสนุกสนานเร้าใจ..ซะงั้น
• โหมดสปอร์ต กดปุ่ม Sport ที่อยู่บริเวณคันเกียร์
ระบบ Sport Hybrid i-MMD ใหม่ เป็นระบบ Full Hybrid ให้อัตราการประหยัดน้ำมัน 24.4 กิโลเมตร/ลิตร อัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 97 กรัม/กิโลเมตร
• ระบบฮอนด้า เซนส์ซิ่ง มีเรดาร์และกล้องด้านหน้า
เทคโนโลยีความปลอดภัย ฮอนด้า เซนส์ซิ่ง (Honda SENSING) ผสานการทำงานของเรดาร์และกล้องด้านหน้า ในการตรวจจับสภาวะแวดล้อม ช่วยแจ้งเตือนผู้ขับขี่และช่วยควบคุมรถในสถานการณ์การขับขี่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ประกอบด้วย
• ระบบเตือนการชนรถและคนเดินถนนพร้อมระบบช่วยเบรก (Collision Mitigation Braking System: CMBS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน พร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (Adaptive Cruise Control with Low-Speed Follow: ACC with LSF)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (Lane Keeping Assist System: LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (Road Departure Mitigation System with Lane Departure Warning : RDM with LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (Auto High-Beam: AHB)
ส่วนระบบความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่
• ระบบเตือนเมื่อมีรถเคลื่อนผ่านขณะถอย (Cross Traffic Monitor: CTM) ด้วยเสียงและสัญลักษณ์เตือนบนหน้าจอ
• ระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง (Multi-View Camera System: MVCS) ติดตั้ง 4 จุด (ด้านหน้า หลัง ซ้าย และขวา) รวมถึงภาพจำลองจากมุมสูง
• ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ พร้อมระบบช่วยเบรก
ระบบช่วยจอด พร้อมระบบช่วยเบรก (Honda Smart Parking Assist System) จะช่วยควบคุมพวงมาลัยอัตโนมัติ โดยเพียงแค่เดินหน้าหรือถอยหลังไปตามคำแนะนำ และตามตำแหน่งบนหน้าจอ ทั้งการจอดรถแนวขนานและการถอยหลังเข้าจอด
• หลังคามีซันรู้ฟ
กระจังหน้าเป็นโครเมียม เชื่อมต่อกับไฟหน้า พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวัน (Daytime Running Lights) แบบ LED ไฟท้าย LED ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว ในรุ่นเทอร์โบ และขนาด 18 นิ้ว ในรุ่นไฮบริด
• มีระบบแสดงข้อมูลบนกระจกหน้า (Head-Up Display : HUD)
• มาตรวัดพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบเครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว แบบ Advanced Touch รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งการด้วยเสียง SIRI
• มีอุปกรณ์ชาร์จไฟแบบไร้สาย (Wireless Charger) และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ พร้อมเครื่องปรับอากาศด้วยกุญแจรีโมท (Engine Remote Start)
แอคคอร์ด ใหม่ มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีใหม่ สีขาวแพลทินัม (มุก), สีดำคริสตัล (มุก), สีเงินลูนาร์ (เมทัลลิก) และสีเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิก) สีภายในห้องโดยสาร 3 สี ได้แก่ สีไอวอรี่เบจ, สีดำ และ
สีน้ำตาล (เฉพาะรุ่น HYBRID TECH) ซึ่งขึ้นอยู่กับสีตัวรถภายนอก
มีให้เลือก 3 รุ่น ได้แก่
- รุ่น HYBRID TECH ราคาไม่เกิน 1,800,000 บาท
- รุ่น HYBRID ราคาไม่เกิน 1,650,000 บาท
- รุ่น TURBO EL ราคาไม่เกิน 1,500,000 บาท
ทางฮอนด้า จะประกาศราคาอย่างเป็นทางการพร้อมการวางจำหน่าย ในเดือนพฤษภาคม 2562
เชิญสัมผัสได้ที่งานมอเตอร์โชว์ ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 7 เมษายน 2562 เมืองทองธานี ถสอบถามเพิ่มเติม www.honda.co.th/accord
• สีขาวแพลทินัม (มุก) เพิ่ม 12,000 บาท และสีดำคริสตัล (มุก) เพิ่ม 8,000 บาท
• จบข่าว นะจ๊ะ