มิงกะละบา เที่ยวพม่า 4 คืน 5 วัน Go Anywhere ไปกับนิสสัน

DAY 3 Inle Lake – Nam Sang (165 KM) ตื่นเช้าวันที่ 3 ของการเดินทาง ที่ Hupin Hotel & Resort เป็นเช้าที่สดชื่น ถือว่าอากาศดีใช้ได้เลยครับ ... นั่งจิบกาแฟ นึกไปถึงเรื่องราวของการเดินทาง ทุกครั้งที่เริ่มเดินทางเรามักจะได้พบกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา ถึงแม้ว่าสถานที่ซึ่งเราจะเดินทางไปจะเป็นที่เดิม แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นก็มักจะเปลี่ยนแปลงเสมอ
จิบกาแฟเสร็จก็ออกไปเดินดูบรรยากาศยามเช้าภาพที่เห็นตรงข้างหน้าสะกดใจไปครู่ใหญ่ หมอกบาง ๆ ที่น้ำลอยขึ้นมาบนผืนน้ำ แสงพระอาทิตย์ยามเช้า เป็นภาพที่ดูอ่อนโยนเหลือเกิน ทั้งภูเขาและแม่น้ำยามนี้ดูกลมกลืนกันมาก มองแล้วรู้สึกสบายใจจัง ห้องพักที่เราพัก เป็นแบบ Lake View ไม่รู้ราคาเพราะนิสสันจัดให้ … วิวยิ่งสวยเข้าไปใหญ่ บ้านแต่ละหลัง สร้างสลับกัน ทำให้คนที่พักอยู่ในแถวที่สองเมื่อมองออกไป เหมือนไม่มีอะไรมาขวางกั้น เห็นวิธีการสร้างที่พัก ต้องยกนิ้วชื่นชมสถาปนิก เพราะเค้าจัดวางทุกอย่างได้อย่างลงตัว


หลังจากกินข้าวเช้าเรียบร้อยทางนิสสันและทีมงานกลอริล่าก็จัดเตรียมการท่องเที่ยวทางน้ำไว้ให้เรา ไปไหนอ่ะ ... เปียกป่าวววว ... นี่คือคำถามแรก แต่ก็ต้องไปอยู่ดี สำหรับ ทะเลสาบอินเล ตั้งอยู่กึ่งกลางประเทศพม่า ในเมือง Nyaung Shwe ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ ที่ชาวบ้านใช้ชีวิตท่ามกลางทะลสาบ ... หื้มมม? คือชาวบ้านเค้าสร้างบ้านและอยู่อาศัยกันในทะเลสาบเล้ยยย ทีนี้เนี่ย ... แล้วจะอยู่กันยังล่ะ อยากรู้ก็กระโดดลงเรือไปดูกันดีกว่า


การดำรงชีวิตและการเพาะปลูกหรือเกษตรกรรมของชาวทะเลสาบอินเลก็จะต้องเกี่ยวกับทางน้ำ เช่น การปลูกมะเขือเทศบนสวนลอยน้ำ การสร้างบ้านแบบเสาค้ำกลางน้ำ รวมถึงยานพาหนะจำเป็นอย่างเรือ ที่แน่นอนมีจอดอยู่ทุกบ้าน แล้วที่สุดของทะเลสาบอินเลคือความสามารถพิเศษของชาวอินคากับการพายเรือด้วยเท้าข้างเดียวในการสัญจร แต่โคตรไฮไลท์ไปอยู่ที่ ชาวประมงอินคาจับปลา แปลกตรงไหน ... หลายคนถาม ... แปลกดิ๊ เพราะ ... ไหนจะพายด้วยเท้าข้างเดียวแล้ว ยังโชว์สกิล ใช้เท้าข้างเดียว “ยกอวน” ดักปลา อีกต่างหาก โหหห ... ไม่ใช่อินคาทำไม่ได้ แน่นอน ... ดังมากเว้ย ขอบอก กลายเป็นรูปที่ดังทั่วโลก มาที่นี่ต้องได้ชอตนี้นะ ถ้าไม่ได้ถือว่ามาไม่ถึง



เรานั่งเรือดิ่งลงมาทางด้านล่างของทะเลสาบอินเล ซึ่งวิวรอบๆ แม่งสวยมากจริงๆ เพราะมีภูเขาล้อมรอบทะเลสาบเลย อากาศไม่ร้อนเพราะเรือวิ่งเร็ว แต่แดดจัดมาก ดังนั้นทาครีมกันแดดด้วยนะ ไม่งั้นดำแน่ๆ ไกด์กวางพาเรามาจุดหมายต่อไปคือ วัดเผ่าต่ออู เป็นที่ประดิษฐานของพระบัวเข็ม พระพุทธรูปไม้อันศักดิ์สิทธิ์จำนวน 5 องค์ มองดูแล้วอาจจะแปลกตาสักหน่อย เพราะดูยังไงก็มองไม่ออกว่าองค์พระรูปร่างจริงๆ เป็นอย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วองค์พระเป็นไม้ ที่ถูกผู้คนนำทองมาปิดจนหนาขึ้นเรื่อยๆ ใหญ่กว่าพระเดิมเป็นอย่างมาก กลายเป็นสีทองเหลืองอร่ามอย่างที่เราเห็นกัน โดยความเชื่อกันที่กล่าวไว้ว่าเป็นพลังศรัทธาที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเป็นองค์พระก็ได้ ...



*** ความเชื่อกันที่กล่าวไว้ว่าพลังศรัทธาที่ไม่จำเป็นต้องเห็นเป็นองค์พระก็ได้ ***
ลงเรือต่อ ... มาทริปนี้ ได้เป็นผู้ชายพายเรือจริงๆ เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลง กรูงง ละเนี๊ยยย ... ไกด์กวางก็พาเราไปต่อที่ บ้านทอผ้าไหม ใยบัว ที่นี่ก็จะมีชาวบ้านนั่งเป็นโซนๆ เลยว่าใครทำอะไรยังไงบ้าง โดยจะมีคนพม่าเนี่ยแหละคอยอธิบายเป็นภาษาอังกฤษอยู่ เราสามารถเดินไปเดินมาถ่ายรูปได้หมดโดยที่ชาวบ้านที่นั่งทำอยู่แบบนั้น เราเดินผ่านก็จะไม่สนใจอะไรเราเลย ... มียิ้มนิดหน่อยพิเป็นพิธี ดูเหมือนโดน Stage สั่งมาให้ทำท่าเดียวเท่านั้นอ่ะ ห้ามทำท่าอื่น 5555 .... หยอกๆ นะ ที่นี่มีร้านขายผ้าด้วยนะ ร้านนี้ใหญ่และมีผ้าไหมให้เลือกเยอะมาก ส่วนเรื่องราคานี่ไม่แน่ใจว่าแพงกว่าที่อื่นหรือเปล่า ผมเดินไปเดินมาดูของแปปนึงก็ออกแล้วครับ แฮร่ ... ไม่ซื้อ



สำหรับวันที่ 3 ของการเดินทาง เราได้รับมอบหมายให้บัญชาการ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ จุดหมายวันนี้ เมือง น้ำจ๋าง ในรัฐฉาน ระยะทางประมาณ 165 กิโลเมตร ถึงเวลาก็แสดงพลังออกมาอย่างเต็มที่กับพื้นฐานเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไฮบริด ให้กำลังสูงสุด 144 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 200 นิวตัน-เมตร พร้อมโปรโมชั่นพิเศษแถมมอเตอร์ไฟฟ้าที่เพิ่มเข้าไปให้อีก 41 แรงม้า และแรงบิดอีก 160 นิวตัน-เมตร รวมๆ เกือบ 200 แรงม้า มันส์ทุกโค้ง ใส่เต็ม เพราะเป็น SUV แท้ๆ ไม่มีกลัว มีระบบ Advanced Chassis Control ที่ช่วยในการควบคุมรถ และตอบสนองการขับขี่ได้ทุกสถานการณ์ ที่ชอบสุดคงเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ ที่จะควบคุมกำลังของล้อหน้าและล้อหลังให้สัมพันธ์กัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน กดคันเร่ง บังคับพวงมาลัยย่างเดียว นอกนั้นรถจัดการให้เราเองหมดทุกอย่าง ...



ขับไปซักพัก เที่ยงละ แวะพักกินกันก่อน ทริปนี้เรื่องกินเรื่องใหญ่ เที่ยงนี้เราแวะกินที่เมืองตองยี มื้อนี่เราได้กินสเต็ก ตามคำบอกเล่าคือสเต็ก ... แต่ของจริงลักษณะจะออกไปในแนวสตูเนื้อมากกว่า เพราะที่มาเสริฟมาเป็นแบบน้ำราดฉ่ำมาเลย เนื้อวัวหั่นแล้วพอคำประมาณ 5-6 ชิ้น มี บล็อกเคอรี่ , แครอท , ถั่วลันเตา มีมันบดอยู่ด้านล่างสุด รสชาติน้ำราดออกสไตล์พม่า จืดหน่อยไม่เข้มข้น แต่ถือว่าน้ำราดปรุงครบรส เนื้อเหนียวกำลังดี คนอื่นอาจจะว่าเหนียวไป พวกผักก็ต้มมาดีแล้ว นุ่ม หวานอร่อย มันบดเนื้อเนียนรสชาติดี ถือว่าเป็นสเต็กเนื้อในแบบของพม่าที่อร่อยดี กดไป 2 จาน เพื่อตุนไว้ย่อยระหว่างเดินทาง 555

*** สตู รึ สเต็ก ไม่เป็นไรเอาเป็นว่าอร่อยก็แล้วกันนะ ***
เดินทางต่อช่วงบ่ายเป็นทางเขา โค้งเยอะ ทางแคบ ไหล่ทางดวงจันทร์ สนุกเลยทีนี้ แต่ที่ชอบสุดสำหรับเส้นทางแบบนี้คือ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ใหม่ เค้ามีระบบช่วยลดความเร็วอัตโนมัติในขณะถอนคันเร่งหรือเข้าโค้ง (Active Engine Brake: AEB) อันนี้ช่วยได้อย่างมาก บางทีมาเร็วๆ เข้าโค้งแล้วมันเป็นโค้งแบบลับตาต่อเนื่อง ลดความเร็วให้เลย ปลอดภัยแน่นอน อีกระบบคือ ช่วยลดอาการโยนตัวบนทางขรุขระ (Active Ride Control: ARC) อันนี้ถ้าใส่มาเต็มที่อย่างน้อยช่วยให้การโยนตัวน้อยลง ไม่โดด คนนั่งหลังไม่เหวี่ยง ส่วนอีกระบบ คือ ระบบควบคุมเสถียรภาพขณะเข้าโค้ง (Active Trace Control: ATC) ถ้าใส่มาเต็ม อันนี้ช่วยได้แน่นอน เชื่อได้เลย ไม่มีหลุด เอาอยู่ ลองมาแล้วเลยอยากบอกต่อ



ลงเขามาสู่ทางราบเดินทางเข้าที่พัก โรงแรม Golden Fish Hotel @ Nam Sang วันนี้ไม่เหนื่อย สบายๆ ... แต่รู้สึกหิว เพราะขับมันส์มากไปหน่อย มื้อเย็น จัดเต็มด้วยอาหารที่ละม้ายคล้ายอาหารไทย มีอะไรบ้างมาชมกัน ... จานแรกเป็นไข่เจียว ประมาณแบบไข่เจียวทรงเครื่อง ใส่ทุกเครื่องที่มี ทั้งเนื้อสัตว์ทั้งผัก รสชาติ เผ็ด เค็ม กินกับข้าวสวยเด็ดจริง จานต่อมา หน้าตาประมาณหมูสามชั้นผัดพริกหยวก กลิ่นใช้ได้ รสชาติก็ดีเลย หมูสามชั้นเน้นมัน ผัดมาน้ำมันเยอะมาก แต่ตัดความเลี่ยนได้ด้วยความเผ็ดที่นำมาเข้าวินเป็นอย่างแรก เลยทำให้รู้สึกว่ากลมกล่อมพอดี จานที่สามหมูสามชั้นผัดพริกกระเทียม จานนี้เน้นเผ็ดล้วนๆ รสชาติเดียวคือเผ็ด ความมันของหมูสามชั้นยังเอาไม่อยู่ จานนี้หลายคนยอมแพ้ เพราะสู้ไม่ไหว แต่ผมสู้ต่อไม่ถอย เล่นเอาเพดานปากกับกระพุ้งแก้มชาไปเลยเหมือนกัน สุดท้ายยังคงเป็นเมนูหมูสามชั้นแบบเหนียวแน่น หมูสามชั้นผัดขิงซอย จานนี้เลี่ยนได้เต็มที่เพราะน้ำมันฉ่ำไปทั่วจาน รสชาตืมันๆ ได้รสช่าติของขิงมาช่วยให้เลี่ยนน้อยลง สรุปอาหารเย็นโดยรวมใกล้เคียงประเทศจีน แต่จะมีความจัดจ้านมากกว่า มื้อนี้กินข้าวไปเยอะเลย 3 จาน อิ่มจุกเลยครับ

*** หมูสามชั้นผัดพริกหยวก ***

*** หมูสามชั้นผัดพริกกระเทียม ***

*** หมูสามชั้นผัดขิงซอย ***
กินข้าวเสร็จก่อนขึ้นไปพักผ่อนพูดคุยเรื่องเส้นทางในวันรุ่งขึ้น ทางทีมงานพี่โด่งแจ้งว่าพรุ่งนี้ทางปราบเซียน ทางเขาล้วนๆ 334 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 ชั่วโมง เตรียมตัวให้พร้อม ผมกับสันติภพพร้อมมาก แถมได้เทอร่าซะด้วย เดี๋ยวมาเล่าให้ฟังตอนหน้า 10 ชั่วโมงบนเขาจะเป็นยังไงบ้าง คนอื่นเป็นไงผมไม่รู้แต่ที่แน่ๆ ผมสนุก 555 ติดตามกันต่อนะครับ ...