รณชิต ได้รับชวนให้ไปขับรถ นิสสัน ลีฟ ใหม่ พิสูจน์สมรรถนะในการพิชิตยอดดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ในระยะทาง 208 กิโลเมตร เริ่มต้นจากในตัวเมืองเชียงใหม่ ขับขึ้นสู่ยอดดอยซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จเพียงเต็มครั้งเดียวเท่านั้น
นับเป็นโอกาสดีที่ได้สัมผัสกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าขณะเบรกและชะลอความเร็ว หรือที่เรียกว่า regenerative braking system ซึ่งนั้นก็คืออัตราเร่งที่มีมาเร็วและแรงกว่าเครื่องยนต์สันดาปภายใน กระทุ้งแต่ละทีกดหลังติดเบาะเลยครับ ตามด้วยการชาร์จไฟคืนหม้อเมื่อถอนคันเร่ง โดยรณชิตได้คู่กับจารย์บอย วรพล สิงห์เขียวพงษ์
เราก็ไปตามเป้าที่นิสสันต้องการให้ทราบถึง สมรรถนะ นวัตกรรม และความสะดวกสบายของ ลีฟ ใหม่ ซึ่งออกแบบพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มแรก การขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์บนถนนที่มีช่องจราจรเดียว เป็นการทดสอบที่สามารถพิสูจน์สมรรถนะในแต่ละด้านของรถได้เป็นอย่างพองามตามท้องเรื่อง
ขอเม้าท์ตามที่ได้ทำมา นะครับ การขับลงในพื้นที่ลาดชันนั้นมีระบบฟื้นฟูพลังงานโดยชาร์จไฟฟ้าคืนหม้อ เจ้าภาพเขาให้วัดอาคมกันด้วยว่า ในขบวนนี้คันไหนใช้พลังงานได้สมบูรณ์ที่สุดทั้งใช้ออกและชาร์จเข้า จะมีการจัดคะแนนด้วย ซึ่งผลการลงอาคมก็คว้าชนะเลิศมาครองตามเคย จากกันการใช้งานคันเร่ง เบรก และเกียร์อย่างชิลๆ ซะงั้น
ระบบฟื้นฟูพลังงาน ช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่เมื่อใช้ชะลอความเร็ว โดยมอเตอร์ไฟฟ้าจะเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการเบรกกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า เช่นระหว่างทางลงจากยอดดอยอินทนนท์ นิสสัน ลีฟ ใหม่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้สูงสุดถึงกว่า 20%
ทั้งนี้ความสามารถดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และความลาดชันของเส้นทาง โดยการขับใน โหมด ‘B' ของลีฟ จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้การฟื้นฟูพลังงานที่มากยิ่งขึ้นในขณะที่ชะลอความเร็ว สรุปแล้วก็ขับธรรมดาเนี่ยแหละดีที่สุด เพราะรถเขาฉลาดพอ ขาลงทางชันๆก็แตะเบรกซะหน่อย แต่ไม่เบรกจริง เอาแค่แตะหลอก มันก็ช่วยหลอกต่อให้รู้สึกชาร์จไฟได้มากขึ้น โดยดูจากการแจ้งผลบนหน้าปัดตลอดเวลาที่ขับขี่
นอกจากนี้ยังได้ทดลองใช้ นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของลีฟ ในระหว่างการขับขี่รวมถึง e-Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดนิ่งด้วยการใช้แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว
นิสสัน ลีฟ ยังมีเทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning – FCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking – FEB) และเทคโนโลยีกล้องอัจริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ซึ่งให้มุมมองได้แบบ 360 องศา เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่บนภูเขา
สำหรับเส้นทางทดสอบนี้ นิสสัน ลีฟ พึ่งพาอาศัยได้เต็มเหนี่ยวด้วยแรงบิดสูงสุดถึง 320 นิวตันเมตร สามารถให้อัตราเร่งอย่างเป๊ะๆ แรงตามสั่ง แต่ปลายด้านนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์น้ำมัน
นิสสัน ลีฟ ใหม่ รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย สอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center ที่ 02 401 9600 หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Nissan LEAF Thailand page
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2561 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.52 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.6 ล้านล้านเยน สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ
นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561