ReadyPlanet.com
dot




TOYOTA IN TOKYO MOTORSHOW 2019 ตอนที่ 3 Mobility for All article

TOYOTA  IN TOKYO MOTORSHOW 2019 ตอนที่ 3

Mobility for All

ตอนที่ 3 วันนี้เริ่มเข้าสู่ของจริง วันจริง Press Day สำหรับงาน Tokyo Motor Show 2019 วันนี้เราตื่นเช้าเหมือนเดิม แต่งตัวพร้อม อุปกรณ์พร้อม การเดินทางของเราวันนี้ก็ได้รับการดูแลอย่างดีเหมือนเมื่อวาน เราออกเดินทางจาก Keio Plaza มุ่งหน้าไปยัง Tokyo Big Sight สถานที่จัดงาน ใช้เวลาไม่นานก็เดินทางถึง ลงรถบัสริมถนนด้านนอกตัวอาคาร เพราะรอบอาคารบางส่วนมีการปรับปรุง เดินเข้างานระยะทางไม่ไกล ประมาณ 800 เมตร ได้ออกกำลังกายสูดอากาศดีๆยามเช้า แต่มีหลายคนบ่น สงสัยจะเป็นเก๊าเดินไกลไม่ได้ น่าสงสาร 555  

สำหรับ Tokyo Motor Show 2019 ปีนี้ได้ขยายพื้นที่จัดงานให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ไม่ได้อยู่แต่เพียงแค่ใน Tokyo Big Sight เท่านั้น ยังมีการเพิ่มเติมไปสู่ Aomi Exhibition รวมไปถึง Megaweb อีกด้วย แถมยังมีโซน Open Road และ Drive Park ให้เพลิดเพลินกันอย่างเต็มที่เดินเข้ามาถึงหน้างานก็เอาบัตรไปสแกน QR เพื่อเข้างาน เจ้าหน้าที่ยืนรอพร้อมเครื่องสแกนไม่ต่ำกว่า 10 คน ทำงานกันรวดเร็ว ดูรูปแบบการทำงานแล้วโปรดีครับ ชอบ น่าจะเอาไปใช้ในงานบ้านเราบ้าง เข้าไปในงานเรียบร้อย ก็รอเวลาเปิดบูธของ LEXUS ประมาณ 11.35 ระหว่างรอก็เดินไปกินข้าวปั้นที่ Lawson รองท้อง ลองสังเกตดูภายในงาน มีสื่อมวลชนจากหลายประเทศมากันมากมาย แต่ละคนเตรียมพร้อมสำหรับการทำงานในวันนี้มาก และจากรูปแบบของงาน ถือว่าเป็นการมาทำงานที่ทำให้เราได้เรียนรู้เรื่องของการทำงานแบบมืออาชีพมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ได้เวลาไปลุยบูธ Lexus บอกเลยคนเยอะมาก ลื่อมวลชนไปจับจองพื้นที่รอชมตัวจริงกันเพียบ สำหรับ Lexus LF-30 Concept ออกแบบแนวทางที่มุ่งไปสู่ความล้ำยุคในอนาคตกับ Lexus Electrified เชื่อมโยงกับเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าในทศวรรษใหม่ที่กำลังจะมาถึง ด้านขุมพลังจะใช้แบตเตอรี่แบบ Solid State ที่มีคุณสมบัติชาร์จไว ความจุมากกว่าเดิม ซึ่งคาดการณ์กันว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า EV ในยุคต่อไป จากการใช้แบตเตอรี่ขนาด 110 kWh ทำให้ Lexus LF-30 Concept วิ่งได้ไกลประมาณ 500 กิโลเมตร กับพละกำลัง 544 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 700 นิวตันเมตร เร่งความเร็วจาก 0-100 กม./ชม. ได้ในเวลา 3.8 วินาที ทั้งยังทำความเร็วได้สูงสุดถึง 200 กม./ชม. อีกหนึ่งจุดเด่นคือการติดตั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนโดยตรงไว้ที่ล้อ รวมไปถึงประตูข้างขนาดใหญ่ที่เปิดต้อนรับในแนวปีกนก

ส่วนภายในห้องโดยสารของ Lexus LF-30 Concept รองรับทั้งหมด 4 ที่นั่ง ส่วนหน้าจอก็สามารถสั่งการได้ด้วยระบบ Gesture-Control ซึ่งจะมาแทนที่การกดสั่งงาน ด้วยการใช้นิ้วปัดหน้าจอไปในทิศทางต่างๆ และยังมีระบบ AI จะอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร

หลังจากเปิดบูธ Lexus เรียบร้อย เราก็เดินทางไปที่ Aomi Exhibition ที่อยู่ห่างจาก Tokyo Big Sight ไปประมาณ 1.2 กิโลเมตร เพื่อไปร่วมเปิดบูธ Toyota เราเลือกการเดินทางด้วยการเดินชมธรรมชาติเพลินๆ ไปเรื่อยๆ ที่จริงมีรถบัสรับส่งระหว่างฮอลล์ แต่เราตัดสินใจถูกแล้วที่เดินมาเพราะการรอรถบัสแต่ละคัน ใช้เวลาต่อแถวนานมากพอสมควร

ถึงฮอลล์แล้วก็เข้าไปถึงบูธ Toyota สำหรับปีนี้ ทาง Toyota เน้นการเข้าถึงตามแนวคิด Play the Future ทุกคนสามารถสัมผัสรถต้นแบบได้อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ประสบการณ์ของการขับเคลื่อนแห่งอนาคตอย่างทั่วถึง ตามธีม สวนสนุกของการขับเคลื่อนแห่งอนาคต

รุ่นแรกที่เอามาโชว์เป็น Toyota e-Palette ที่เป็นรถขนส่งอัตโนมัติ สำหรับรุ่นนี้ออกแบบพิเศษ โตเกียว 2020 เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการคมนาคมระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกและพาราลิมปิกปี ค.ศ. 2020 ณ. กรุงโตเกียว โดยจะผสานการทำงานร่วมกันระหว่างฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และเซ็นเซอร์ที่ล้ำสมัย เช่น กล้องและเซ็นเซอร์วัดแสงเทคโนโลยีไลดาร์ (LiDAR) ทำงานร่วมกับแผนที่สามมิติ (3D mapping) และระบบควบคุมการปฏิบัติการ จากสมาคมวิศวกรรมยานยนต์นานาชาติหรือ SAE International (Society of Automotive Engineers) Level 2 : เพื่อสนับสนุนระบบการทำงานที่ปลอดภัย อี-พาเลตต์จะมาพร้อมหน้าจอแสดงผลแสดงให้เห็นการทำงาน และ การควบคุมเครื่องจักร (human-machine interface) ช่วยสื่อสารกับสิ่งแวดล้อมรอบตัวรถ รวมทั้งคนเดินเท้าขณะรถให้บริการขับขี่อัตโนมัติไฟรถด้านหน้าและหลังจะเลียนแบบการทำงานของมนุษย์ด้วยการสื่อสารทางสายตาเพื่อแจ้งคนเดินเท้าให้ทราบสถานะการทำงานของรถ ระบบการขับขี่อัตโนมัติจะคอยตรวจสอบสิ่งกีดขวางด้วยมุมมองแบบ 360 องศารอบตัวรถ และจะปรับระดับความเร็วให้เหมาะสมตามสภาพแวดล้อม ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยเชิงรุกเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประจำรถจะคอยตรวจสอบความเคลื่อนไหวของรถ และพร้อมทำการควบคุมในกรณีที่มีความจำเป็น

ต่อมาหุ่นยนต์ Toyota  Micro Palette เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงาน โดยจะคอยเสิร์ฟน้ำให้กับผู้เข้าชมงาน ! หุ่นยนต์ขนส่งขนาดเล็กที่ไม่เพียงแต่จะส่งมอบสิ่งของให้กับคนที่คุณรัก แต่ยังสามารถส่งมอบความรู้สึกไปให้ผู้รับได้ด้วย นวัตกรรมการให้บริการขนส่งในช่วงสุดท้าย (last-mile mobility) นี้จะช่วยให้ทั้งสิ่งของและอารมณ์ความรู้สึกสามารถถูกส่งไปให้กับผู้รับได้พร้อมๆ กันในอนาคต

ต่อด้วย Toyota  e-RACER นวัตกรรมยานยนต์ที่นำเสนอประสบการณ์ “ความสนุกสนานในการขับขี่” แห่งโลกอนาคต โดยผู้เข้าชมสามารถสวมแว่นตาดิจิตอล ที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อสัมผัสประสบการณ์การขับรถแข่งแบบเสมือนจริงในสนามแข่งที่ตนเองเลือกได้ตามความต้องการ รวมทั้งยังสามารถเลือกปรับที่นั่งเพื่อให้พอดีกับรูปร่างได้ด้วย

ถัดมา Toyota  e-4me ยานยนต์ที่นั่งเดี่ยวที่ให้บริการด้านการขับเคลื่อนพร้อมๆ กับการทำให้ผู้โดยสารได้สัมผัสกับความรู้สึกหรูหรา สามารถทำกิจกรรมของตนเองและเพลิดเพลินไปกับบริการอื่นๆ ได้ตลอดการเดินทางไปยังจุดหมาย โดยไม่ต้องกังวลถึงผู้คนโดยรอบ

Toyota  e-Trans เรียกง่ายๆคือ บริการการเช่ารถระยะสั้นในอนาคตที่เอื้อให้ผู้คนจำนวนมากสามารถเดินทางสัญจรไปยังสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย พร้อมทั้งสามารถขนส่งสิ่งของต่างๆ ได้มากมายด้วย

ในส่วนของเรื่องสุขภาพ ก็ตอบโจทย์ด้วย Toyota  e-Care รถตรวจสุขภาพแห่งอนาคตที่ใช้การสื่อสารต่อหน้ากันแบบเดียวกับเกม “เป่ายิ้งฉุบ” ที่ทุกคนรู้จักกันดี แพลตฟอร์มการให้บริการการขับเคลื่อนนี้ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารสามารถพูดคุยกับหมอในขณะโดยสาร ตลอดจนทำการตรวจร่างกายระหว่างเดินทางไปยังโรงพยาบาล  โดยยานยนต์ Toyota  e-Care สามารถไปยังจุดหมายปลายทางใดก็ได้ที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นบ้านของลูกค้าหรือสถานที่อื่นๆ

สุดท้ายกับ Toyota  e-Chargeair ยานยนต์ที่มีการติดตั้งระบบชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย โดยนี่เป็นแพลตฟอร์มบริการการเช่ารถระยะสั้นซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่คันอื่นๆ ในระหว่างการเดินทางได้  นอกจากนี้ ยานยนต์ Toyota  e-Chargeair สามารถผลิตไฟฟ้าให้กับทั้งรถยนต์และให้กับเมืองด้วย ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมาพร้อมกับฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ ได้แก่ เครื่องฟอกอากาศ และสัญญาณ Wi-Fi

จบในส่วนของ Aomi Exhibition เรียบร้อย เราก็เดินต่อไปที่ Megaweb เพื่อไปต่องาน JAMA Press Conference ของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ญี่ปุ่น ซึ่งที่นี่ทาง Toyota จัดโซน Future Expo เพื่อนำรถมาจัดแสดงด้วย เริ่มจาก Toyota  Mirai เจเนอเรชั่นที่ 2 ที่มีการวางแผนว่าจะเริ่มเปิดตัวช่วงปลายปีพ.ศ. 2563 และยังมี  Ultra-Compact BEV (ยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานแบตเตอรี่อัลตรา คอมแพกต์) รุ่นใหม่ ที่จะมีการเปิดตัวเพื่อวางจำหน่ายเชิงพาณิชย์ในประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ.2563 ยนตรกรรมเพื่อการขับเคลื่อนรุ่นใหม่นี้ออกแบบสำหรับการสัญจรระยะใกล้ โดยส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และยานยนต์ต้นแบบ LQ มีความสามารถในการขับขี่อัตโนมัติ ทั้งมี “YUI” เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สุดชาญฉลาด มีความสามารถในการตอบโต้ซึ่งออกแบบให้เรียนรู้ผู้ขับขี่ และเป็นผู้สร้างประสบการณ์ในการขับเคลื่อนที่เฉพาะส่วนบุคคล

และที่น่าตื่นเต้นอีกคันก็คงเป็น ตัวเป็นๆของ New Yaris 2020 จะเป็นโมเดลแรกที่ผลิตบนแพล็ตฟอร์ม TNGA-B ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรถคอมแพ็กต์คาร์โดยเฉพาะ ปรับลดน้ำหนักของตัวถังแต่มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำลงเพื่อประสิทธิภาพในการเกาะถนนที่ยอดเยี่ยม สามารถรองรับระบบขับเคลื่อนที่หลากหลายทั้งเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร , เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์ไฮบริด THS II เห็นแล้วน้ำลายไหล อยากให้เข้ามาเปิดตัวในบ้านเราใจจะขาด

และนอกจากนี้ ยังแนะนำ หุ่นยนต์ T-HR3 หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ที่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้อย่างยืดหยุ่นเป็นอิสระทั้งตัว โดยเคลื่อนไหวไปพร้อมกับท่าทางของผู้ควบคุม พร้อมกันนี้ยังมีการโชว์หุ่นฮิวแมนนอยด์ Toyota Robot cue 3 ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมใหม่ที่พัฒนาสร้างสรรค์โดยวิศวกรของบริษัทโตโยต้า โดยหุ่นยนต์สามารถโยนลูกบาสลงห่วงได้อย่างแม่นยำสมบูรณ์แบบ สำหรับหุ่นทั้ง 2 ตัวนี้ เห็นแล้วยิ่งนึกถึงหนังหลายเรื่องที่มีหุ่นยนต์เข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้เรารู้สึกว่ายุคของการเปลี่ยนผ่านมาเป็นหุ่นยนต์กำลังใกล้เข้ามาแล้ว  

จบการแถลงข่าวเราเดินออกมาเดินเล่นที่โซน Open Road ที่มีนวตกรรมของโตโยต้ามาให้ลองเล่นกันกับ Concept-i WALK เราขับไปตามทางที่จัดวางเอาไว้ให้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด และสามารถเล่นสนุกกันได้หลายรอบเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังสามารถไปทดลองขับรถรุ่นต่างๆ ของโตโยต้า ได้ที่โซน Drive Park ทั้งในรูปแบบการขับขี่ทั่วไปและการขับขี่แบบออฟโรดที่จะมีสเตชั่นการทดสอบแบบง่ายๆ ให้ลองกันด้วย

Akio Toyoda ประธานบริหารโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น

จบวันไปแบบรวดเร็ว เราเดินกลับไปเพื่อเตรียมตัวขึ้นรถกลับโรงแรม ยกนาฬิกาขึ้นมาดู วันนี้วันเดียว ทั้งวัน เดินไปทั้งหมด 15.8 กิโลเมตร เป็นการเดินชมงานที่สนุกและสะใจมาก แถมยังได้อะไรมาใส่สมองอีกมากมาย ระหว่างเดินก็นึกถึงช่วงการแถลงข่าว มีคำพูดหนึ่งของ Akio Toyoda ประธานบริหารโตโยต้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ที่ผมรู้สึกว่ามันชัดเจนมากกับความเป็นโตโยต้าในปัจจุบันนี้ คือสิ่งที่ท่านพูดว่า “โตโยต้าต้องการที่จะสื่อสารคำว่า "การเชื่อมโยง" ผมหมายถึง การเชื่อมโยงของผู้คน โตโยต้าเชื่อในพลังของผู้คน พลังของการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์ด้วยกัน และมนุษย์ก็เชื่อมโยงต่อกันไปเป็นสังคม สังคมที่จะสร้างความรู้สึกถึงความอบอุ่น , ความจริงใจ และเมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทเป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสามารถยกระดับการใช้ชีวิตของผู้คนให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น โตโยต้าเชื่อมั่นว่าสิ่งที่เรากำลังทำอยู่นี้ จะช่วยให้อนาคตดีขึ้นอย่างแน่นอน” คำพูดนี้แหละคับ ที่ทำให้เราเชื่อว่า โตโยต้า แสดงออกถึงความเชื่อเหล่านี้ โดยผ่านเทคโนโลยีที่สร้างออกมาเพื่อ “มนุษย์” และเพื่อ “สังคม” ที่ดีในอนาคต ...




TOKYO MOTORSHOW 2019

TOYOTA IN TOKYO MOTORSHOW 2019 ตอนที่ 5 กิน เที่ยว เฟี้ยว In Japan article
TOYOTA IN TOKYO MOTORSHOW 2019 ตอนที่ 4 Freedom of Movement article
TOYOTA IN TOKYO MOTORSHOW 2019 ตอนที่ 2 Learning The Future article
มีอะไรใน TOKYO MOTORSHOW 2019 article



Copyright © 2018 All Rights Reserved.