All New TOYOTA GR Supra ค่าตัว 4.99 ล้าน !!!

มร.มิจิโนบุ ซึงาตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด กล่าวแนะนำรถสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด “Toyota GR Supra” รถสปอร์ตในตำนานที่มาพร้อมรูปลักษณ์ดีไซน์สปอร์ตในทุกมิติ Toyota GR Supra ในเจเนอเรชั่นที่ 5 ถือเป็นรุ่นแรกที่ได้รับการพัฒนาและแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการโดย Toyota GAZOO Racing แบรนด์รถแข่งมอเตอร์สปอร์ตระดับโลกของโตโยต้า ที่ดำเนินงานด้วยหลักปรัชญาที่ว่า การทดสอบขีดจำกัดของสมรรถนะการขับขี่ขั้นสูงสุดของรถยนต์ จะแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของรถยนต์ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งเราไม่สามารถเห็นได้ในการขับขี่แบบปกติในชีวิตประจำวัน โดยทั้งหมดล้วนเป็นเป้าหมายที่ท้าทายในการ พัฒนายนตรกรรม “ที่ดียิ่งกว่า” (Ever-Better Cars) ของโตโยต้า

“หลังจากที่ห่างหายไปจากตลาดรถยนต์เป็นระยะเวลากว่า 17 ปี รถ GR รุ่นแรกที่ผลิตโดย TOYOTA GAZOO Racing ก็ได้ทำการเปิดตัวไปทั่วโลก และวันนี้ถือเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต โดย Toyota GR Supra ได้ทำการเปิดตัวในประเทศไทย ทุกท่านอาจสงสัยว่า เพราะอะไร Supra ถึงเป็นรถสปอร์ตในตำนานของโตโยต้า คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าเป็นเพราะเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า และรูปร่างที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่คุณสมบัติเหล่านั้นเป็นเพียงเรื่องราวบางส่วนเท่านั้น” มร.ซึงาตะ กล่าว

GR Supra ได้รับการออกแบบภายใต้แนวคิด “Condensed Extreme” ซึ่งเป็นการออกแบบที่มุ่งเน้นการจัดสรรองค์ประกอบและมิติต่างๆ ของตัวรถให้ส่งเสริมสมรรถนะอันโดดเด่นของรถสปอร์ต ส่งผลให้รถมีการบังคับควบคุมและมีเสถียรภาพในระดับสูง และโดยเฉพาะอยางยิ่งโฉม Generation ที่ 5 (รหัส A90) ใช้ Platform ร่วมกับ BMW Z4 (รหัส G29) ร่วมพัฒนาด้วยกัน โดยรูปแบบตัวถัง BMW Z4 จะเป็น Roadster ส่วน TOYOTA GR Supra จะเป็นแบบ Coupe’ ตัวรถกระจายน้ำหนัก หน้า-หลัง 50 : 50 ที่ BMW ใช้มานาน จุดศูนย์ถ่วงต่ำกว่า มีระยะฐานล้อสั้นกว่ารุ่นน้อง GT86 

ดีไซน์ภายนอกหน้ารถยาวและห้องโดยสารสั้น เครื่องยนต์วางหน้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ขนาดมิติตัวถัง ยาว 4,379 มิลลิเมตร กว้าง 1,854 มิลลิเมตร สูง 1,294 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,470 มิลลิเมตร Ground Clearance 115 มิลลิเมตร ล้ออัลลอยขนาด 19 นิ้ว ไฟหน้าแบบ Adaptive LED 6 เลนส์ พร้อม Daytime Running Light แบบ LED ระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าแบบอัตโนมัติ ไฟท้ายและ ไฟตัดหมอกหลัง แบบ LED ไฟเบรกดวงที่ 3 แบบ LED ระบบปัดน้ำฝนแบบอัตโนมัติ Rain Sensor ท่อไอเสียคู่ มุมมองด้านข้างที่เน้นองค์ประกอบระหว่าง ล้อขนาดใหญ่กับช่วงล้อที่สั้นกระชับ ตำแหน่งของตัวรถที่ถูกกดให้ต่ำและกว้างมากเป็นพิเศษ รองรับด้วยระยะห่างระหว่างล้อซ้าย-ขวาที่ขยายกว้างออกมาอย่างเด่นชัด

         

ดีไซน์ภายในรูปลักษณ์ตามแบบฉบับของรถยนต์สปอร์ต และคอนโซลที่สูงและกว้าง ห้องโดยสารรูปแบบใหม่ที่กะทัดรัด พร้อมการจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ โดยคำนึงถึงผู้ขับขี่เป็นหลัก ทั้งระบบเกียร์แบบไฟฟ้า แผงหน้าปัดแบบจอ TFT และ HUD แบบสีขนาดใหญ่ แผงหน้าปัดแบบจอ TFT และ HUD แบบสีขนาดใหญ่ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง แป้นเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย Paddle Shift เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสลับ Alcantara สีทูโทน ดำ-แดง

ระบบอุ่นเบาะ Heated Seat เบาะนั่งคนขับปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง เบาะนั่งผู้โดยสารตอนหน้า ปรับด้วยไฟฟ้า 8 ทิศทาง ระบบบันทึกตำแหน่งกระจกมองข้าง Memory Side Mirror กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงอัตโนมัติ ระบบชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย Wireless Charging ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ Dual Zone แยกอิสระซ้าย-ขวา

ระบบความบันเทิงเครื่องเสียงระบบสัมผัส Touchscreen ขนาด 8.8 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง Navigation System สวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงบนพวงมาลัย และ ควบคุมจอ MID ระบบเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth ช่องเชื่อมต่อ USB ลำโพง JBL 12 ตำแหน่ง ช่องชาร์จไฟ 12V 2 ตำแหน่ง ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB ระบบ Sport Drive ระบบกุญแจ Smart Keyless Entry ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ Push Start Button