............ คราวนี้คณะเราได้รับชวนให้เข้าร่วมลองขับรถปิกอัพ All-New Mazda BT-50 ซึ่งก็ไกลออกไปเรื่อย ขับไปแวะไปได้สิริรวมวันเดียว 350 กิโลเมตร / ไปกันหลายคัน ทั้งเครื่อง 3.0 ลิตร และ 1.9 ลิตร ถนนส่วนใหญ่ก็เป็นลาดยางสวนทาง แต่โล่งแสนโล่ง ช่วงนี้ผู้คนเฝ้าบ้านเฝ้าช่องกันเยอะครับ

ดีไซน์ภายนอก

บีที-50 มาดใหม่นี้ เป็นเจนเนอเรชั่นที่ได้รับการปรับโฉมใหม่ทั้งหมดเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี โดยความร่วมมือกับอีซูซุ มอเตอร์ ประเทศญี่ปุ่น และเริ่มออกวางจำหน่ายในประเทศออสเตรเลียเป็นตลาดแรกเมื่อเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว / ในบ้านเราก็ตื่นตัวกันพอสมควร เพราะมาใหม่กิ๊กทั้งเนื้อทั้งตัว แตกต่างจากอีซูซุแบบแยกแยะยี่ห้อได้ 

คราวนี้ก็เป็นรถรุ่นที่ผลิตแล้วครับ  ไม่ใช่ทดลองผลิต แบบที่เราเรียกว่ารถ Prototype แต่เป็น Mass Production / จุดนัดที่ต้นทางคือ มาสด้า เจพี กาญจนาภิเษก (วงแหวนตะวันตก) ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมโชว์รูมแห่งใหม่ล่าสุด / ช่วงปีที่ผ่านมานั้น มาสด้าขยายโชว์รูมพรึบเลย มีจอดให้เลือกครบรุ่นครบสี  / เฉพาะ เจพี มีถึง 7 สาขา และมียอดขายเป็นเบอร์ 1 ของประเทศด้วยนะครับ

มาสด้าเริ่มเปิดตัว บีที-50 ครั้งแรกเมื่อปี 2549 ออกวางจำหน่ายทั้งในกลุ่มประเทศแถบโอเชียเนีย อาเซียน อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ตะวันออกกลาง แอฟริกา และภูมิภาคอื่นๆ โดยเป็นรถปิกอัพเพียงรุ่นเดียวภายใต้แบรนด์มาสด้า และได้รับการยอมรับจากผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก

ผมเองนั้นซื้อรถป้ายแดงคันแรกก็มาสด้าปิคอัพเนี่ยล่ะครับ นานมากแล้วตั้งแต่แต่งงานใหม่ๆ ซื้อจากสุโกศลมาสด้า แถวภูเขาทองโน่นแหละ วันนี้มาสด้าหันมาจับมือพัฒนาร่วมกับอีซูซุ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในตลาดรถปิกอัพประเทศไทย โดยอีซูซุ มอเตอร์ จะทำการผลิตปิกอัพ บีที-50 ให้กับมาสด้า 

ตัวรถจากด้านข้าง

ผมได้ขับรุ่น 4 ประตู สูงใหญ่ได้ฟิลลิ่งจริงๆ พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง กุญแจรีโมท ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท และมีฟังก์ชั่นเปิดไฟในห้องโดยสารอัตโนมัติ “ไฟยินดีต้อนรับครับผม” เวลคั่มไลท์รวมถึงมือจับที่ช่วยให้ผู้โดยสารแถวหลัง ขึ้นและลงจากรถได้อย่างสะดวกยิ่งขึ้น สำหรับรุ่นดับเบิ้ล แค็ป แอร์เย็นด้วยช่องแอร์ด้านหลัง และช่อง USB ด้วย / ส่วนทรงชุดไฟหน้าแบบ LED และไฟท้ายก็เป็นรูปทรงกระบอกเช่นเดียวกับไฟหน้า 

พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง

กุญแจรีโมท ที่สามารถสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท

ช่องแอร์ด้านหลัง และช่อง USB

มาสด้า BT-50 ใหม่ มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลความละเอียดสูง ตั้งอยู่ด้านบนของคอนโซลหน้า และยังมีจอเล็กแสดงผล Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว ที่สามารถควบคุมระบบนำทางด้วยการสัมผัสได้ และยังมี Apple CarPlay® และฟังก์ชั่น Android Auto™ และในบางรุ่นยังควบคุมการทำงานด้วยเสียง อีกด้วย

Multi-information Display ขนาด 4.2 นิ้ว

เครื่องยนต์ดีเซล 3.0 ลิตร และ 1.9 ลิตร ขบวนนี้เงียบจริงครับ / ทั้งเครื่องยนต์และฉนวนต่างๆเป็นตัวช่วยให้กริบทีเดียว / อัตราเร่งนั้นไปเนียนและปรี๊ดด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด / เกียร์ธรรมดาก็ 6 สปีด ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อใช้เพลาขับที่ทำจากอลูมิเนียม มาพร้อมกับระบบล็อกเฟืองท้ายแบบไฟฟ้า 

เทคโนโลยีความปลอดภัยเชิงป้องกันใน มาสด้า BT-50 ใหม่ นั้นมีระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน ABSM / เป็นเซ็นเซอร์เพื่อตรวจจับเมื่อมีรถเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านหลังเมื่อเปลี่ยนเลน โดยระบบจะส่งสัญญาณเตือนบนกระจกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย ซึ่งเป็นเซ็นเซอร์ตัวเดียวกันที่ใช้กับระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง 

กล้องมองภาพขณะถอยหลัง

บรรยากาศระหว่างทาง

บรรยากาศรอบๆ ผูภา ป่าสน

นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ รองประธานบริหารฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

นอกจากนี้ยังมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน Hill Descent Control (HDC) / ควบคุมเครื่องยนต์และเบรกเพื่อควบคุมอัตราเร่งและรักษาความเร็วเมื่อขับรถลงทางลาดชัน, ระบบช่วยออกตัวรถขณะอยู่บนทางลาดชัน (HLA) เมื่อคนขับยกเท้าออกจากแป้นเบรกเพื่อเร่งเครื่องยนต์จากจุดออกตัวบนทางลาดชัด ระบบเบรกจะยังคงทำงานเพื่อป้องกันไม่ให้รถไหลไปข้างหลัง, ระบบช่วยจอด Parking Aid เซ็นเซอร์ 4 ตัวบนกันชนด้านหน้าและด้านหลังจะช่วยกะระยะห่างระหว่างรถกับวัตถุ โดยจะส่งเสียงแจ้งเตือนผู้ขับขี่เมื่อรถเคลื่อนเข้าไปใกล้วัตถุจนถึงระยะห่างที่กำหนด / ความจริงไม่ได้ลองทั้งหมดหรอกครับ แต่ขับเป็นหนที่ 2 แล้ว ทะยอยลองเป็นอันๆมาเรื่อยครับ

ระบบ Live Surround เพิ่มสุนทรีย์ภาพขณะโดยสาร

ภายในหรูหรา เก็บครบทุกรายละเอียด

ระหว่างนี้ก็เพลินไปกับลำโพง 8 ดอก เป้าหมายมื้อเที่ยงอยู่ที่ร้านภูผาป่าสน / ตรงนี้ก็เพลินอีก เพราะมีทำเลป่าสนต้นสูงๆ ติดกับอ่างเก็บน้ำท่าเคย โป่งกระทิง ราชบุรี มีเวลาก็สามารถไปนอนกางเต็นท์ได้นะครับ ทำเลดีจริง / ไม่เน้นโมดิฟายมาก เอาแบบเข้ากับไอเดียของชุมชนบริเวณนั้นด้วย

ความจริงคันของผมได้ขับไกลกว่าขบวนนะครับ เพราะ 3 เฒ่ากระทงในรถ เช้าช่องจราจรผิด เลยได้วนกลับเข้ามาชมแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนหาทางไปโป่งกระทิง มีแวะกาฟงกาแฟเล็กน้อย ทั้งขาไปและกลับ / เช้ายันเย็นครับ กลับถึงบ้านมืดเลย / ถ้ายังหนุ่มอยู่อาจจะมีดึกด้วย เพราะต้องแวะร้านลาบก่อนเข้าบ้าน คร้าบผม