ในโอกาสนี้ มร. จาง ไห่โป และคณะผู้บริหาร ได้พาคณะทำงาน APEC 2022 TASK FORCE กระทรวงต่างประเทศเข้าเยี่ยมชมโรงงานประกอบรถยนต์ เอ็มจี บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ มีกำลังการผลิต สูงสุด 100,000 คันต่อปี ด้วยนวัตกรรมระบบอัตโนมัติ(Automations) และหุ่นยนต์อัจฉริยะ(Intelligent Robotics) ผสานกับเทคโนโลยีการผลิตและระบบตรวจสอบคุณภาพที่ดีที่สุด และเป็นโรงงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC มีที่ตั้งที่มีความได้เปรียบในการเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ของภูมิภาค ทำให้โรงงานแห่งนี้เป็นฐานการผลิตรถยนต์เอ็มจีพวงมาลัยขวาระดับโลก และสามารถผลิตรถยนต์ได้ครบทุกระบบการขับเคลื่อน เพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศไทยและภูมิภาค และได้เดินชมไลน์การผลิตแบตเตอรี่ที่ใช้ในรถยนต์รุ่น MG VS HEV และ MG HS PHEV รวมถึงได้พูดคุยถึงการเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ที่ได้มีการศึกษาและวิจัยการจัดการกับแบตเตอรี่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่ไม่ได้ใช้งานแล้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อแสดงศักยภาพการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของรถยนต์ไฟฟ้า และขานรับนโยบายการขับเคลื่อนประเทศด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่อย่าง BCG (Bio-Circular-Green Economy) ซึ่งรถยนต์พลังงานไฟฟ้าถือเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญในมิติของ Green Economy และจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในฐานะยานพาหนะหลักสำหรับการเดินทางของเจ้าหน้าที่ตลอดระยะเวลาการจัดการประชุม
มร. จาง ไห่โป กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด และ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เอ็มจี รู้สึกยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งในการต้อนรับคณะทำงาน APEC 2022 TASK FORCE กระทรวงต่างประเทศ และการได้เป็นส่วนหนึ่งในการจัดการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Economic Cooperation: APEC) หรือ เอเปค 2022 โดยบริษัทฯได้มีโอกาสเป็นพันธมิตรสนับสนุนยนตรกรรมในทุกระบบการขับเคลื่อนสำหรับอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้าร่วมประชุม รวมถึงคณะผู้ปฏิบัติงาน ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดย เอ็มจี ไม่เพียงแต่พัฒนายนตรกรรมที่รองรับทุกรูปแบบการใช้งานเท่านั้น แต่ยังมาพร้อมเทคโนโลยียานยนต์ที่ล้ำสมัย และระบบความปลอดภัยที่ครบครัน พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ดียิ่งขึ้น รวมถึงความมั่นใจของศูนย์บริการ เอ็มจี กว่า 158 แห่ง ทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความตั้งใจในการเสริมสร้างและผลักดันความยั่งยืนของสังคมให้น่าอยู่ โดยเอ็มจีหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมยานยนต์ที่ตอบโจทย์ทั้งความต้องการของลูกค้าและสามารถผลักดันประเทศไทยให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ MG CALL CENTRE โทร. 1267 และสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมของเอ็มจีได้ที่
Website: www.mgcars.com
Line: @MGThailand
Facebook: www.facebook.com/MGcarsThailand
Twitter: @mg_thailand
Instagram: @mgthailand
Youtube: MG Thailand
TikTok: @mgthailand