วันที่ 23-24 กรกฏาคม 2561 : รณชิตได้รับชวนจาก ตุ๊กแสนซน-พุทธชาด แสนสะสม ประชาสัมพันธ์คนงาม ให้ไปร่วมทดลองขับ MITSUBISHI XPANDER ในเส้นทางยาวๆแบบล่องใต้ไปตามเสียงเพลง จากกรุงเทพฯไปจนถึงระนอง ซึ่งระยะทางปรกติก็ราว 580 กม.เศษ แต่ชาวคณะของเราซอกแซก แวะกินแวะเที่ยว และซอกซอนไปตามเส้นทางทดสอบพิเศษในบางช่วง จึงทำให้ระยะทางปาไปกว่า 700 กม.ซึ่งก็มากพอที่จะมีเรื่องเล่านะครับ

• ขับรถชมเมือง

MITSUBISHI XPANDER เป็นรถที่มาจากอินโดนีเซีย ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ธรรมดาสำหรับการผลิตรถยนต์แลกเปลี่ยนกันในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะประเภทครอสโอเวอร์ที่ความต้องการเติบโตอย่างรวดเร็ว คณะเราออกเดินทางจากโรงแรมมิราเคิล ที่อยู่ใกล้กับสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ วันนั้นการจราจรติดขัดสาหัส แค่ออกจากบ้านรามอินทรา กม.13 ยังใช้เวลาไปจุดนัดถึง 3 ชม.เศษ

• ข้ามสะพานแขวน พระราม 9

ดังนั้นเมื่อเริ่มออกเดินทางจึงต้องนั่งในเรือเกลือไปเรื่อยๆ ไปกันสามคน คนอยู่หน้าก็ขับ รณชิตนั่งแถว 2 อาจารย์บอย-วรพล นั่งแถว 3 คือจะย้ายที่นั่งสลับไปให้ครบทุกแถว เพื่อวัดขนาดด้วยร่างการของผู้นั่ง ซึ่งข้อนี้ “โนพอมแพม” อยู่แล้ว ตัวรถยาวถึง 4,475 มม.และกว้าง 1,750 มม.คือนั่งสบายดี และกว้างสบายตัว ยังเหลือที่เก็บของท้ายรถอีกต่างหาก 

 เช้านั้นขึ้นทางด่วนไปลงดาวคะนอง เพื่อแวะโชว์รูมน้องใหม่ บริษัท ไลเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัวแทนจำหน่ายมิตซูบิชิ ริมถนนพระราม 2 เป็นการลงทุนของชาวญี่ปุ่น เปิดเมื่อเดือนกันยายน 2560 ตอนนี้ก็จำหน่ายและบริการ ส่วนอนาคตอันใกล้จะมีซ่อมสีและตัวถังด้วย วันนั้นทางเจ้าภาพได้นิมนต์ลูกค้ามาดู มาสัมผัส นับร้อยท่าน พร้อมเลี้ยงอาหารญี่ปุ่น และมีของฝากติดมือกลับบ้าน ดูทุกท่านชื่นมื่นดี รณชิตก็ได้กับเขามา 1 ถุง ร่มอีกคัน

• ชมนาเกลือบ้านแหลม

อำลาเจ้าภาพแล้วก็เดินหน้าต่อไปตามถนนพระราม 2 ไปเลี้ยวซ้ายเข้าคลองโคนที่ กม.71 ตรงนี้เป็นทางหลวงชนบท ผ่าน อ.บ้านแหลม หาดเจ้าสำราญ ไปถึงปึกเตียนโน่น ธรรมชาติก็คือขับผ่านนาเกลือโล่งๆ มีลมทะเลตีหน้าตีหลัง ก็เข้ากับปัจจัยเรื่องอากาศพลศาสตร์ เพราะ XPANDER เป็นรถที่มีกระจกหน้าลาดเทเอาเรื่องทีเดียว หลังคาสูงด้านหน้า แล้วลาดต่ำลงด้านท้าย รถทรงนี้สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานกับอากาศดีครับ ไม่เพียงมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างจากสมัยก่อนเท่านั้น เหลือแต่นั่งชมนาเกลือ และบ้านนกนางแอ่น ที่ทำกันเป็นจริงเป็นจังในชุมชนแถบนั้น

• ไปเยี่ยมนางพันธุรัตน์ที่ปึกเตียน

• แวะชมทะเลกันครับ

มื้อเที่ยงวันนี้ก็อยู่ที่ร้านเดอะเบสท์ ริมทะเลปึกเตียนนั่นเอง กินไปก็เหล่นางพันธุรัตน์ไปด้วย เพราะมีรูปปั้นนางยักษ์ตระกูลแก้วนี้ไว้ในทะเลใกล้ชายฝั่ง ตัวดำเป็นเหนียงเลย สงสัยคงตากแดดตากลมโดยไม่ได้ใช้โลชั่น

• ไปฮาแอ็คอาร์ตที่พิพิธภัณฑ์ For Art’s Sake

เดินทางตามโลคอลโรดไปเรื่อยก็ถึงพิพิธภัณฑ์ For Art’s Sake ซึ่งมีร้อยเรื่องพันราวเกี่ยวกับภาพและหุ่นหลายมิติ แบบแปลกๆเหมือนที่พัทยา แต่ไม่ต้องถอดเปลี่ยนรองเท้าเหมือนพัทยา ตรงนี้ใครใคร่ฮากับมุมไหนก็ถ่ายรูปกันไป

• เข้าช่วงทดสอบพิเศษ

งานนี้ผู้นำทางได้จัดเส้นทางช่วงทดสอบพิเศษ มุดหญ้าฝ่าสวนในระยะทางพอสมควร เป็นทางดินก็เยอะ ซึ่งก็ยังนั่งสบายดี ไม่ต้องเม้มตูด เพราะเป็นครอสโอเวอร์ที่มีความสูงใต้ท้องถึง 205 มม.ส่วนช่วงล่างด้านหน้าก็แม็คเฟอร์สันสตรัท มีเหล็กกันโคลง และมีเหล็กค้ำหัวโช้คอีกแท่ง ไม่ธรรมดานะเนี่ย ช่วงล่างด้านหลังนั้นเป็นทอร์ชั่นบีม ขนาดก็เตรียมมาสำหรับน้ำหนักผู้โดยสารเต็มคัน พร้อมสัมภาระนั่นเลย

• ลอดอุโมงค์สนามบินหัวหิน

พอโผล่ออกถนนเพชรเกษม ก็ได้เวลาของเครื่องยนต์และระบบขับเคลื่อน คันนี้ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC MIVEC ความจุเพียง 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที อันนี้ยากนะ ฉันคงไม่ตะบันรถฉันจนถึง 6,000 รอบ เพื่อเอา 105 ม้าแน่ๆ ส่วนแรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที อันนี้เอาตัวรอดได้ เราไม่ต้องลาก 4,000 เพื่อจะเอา 141 นิวตัน แต่มี MIVEC ซึ่งเป็นระบบวาล์วแปรผันด้านไอดี จึงมาช่วยทำอัตราเร่งให้ดูงามตาขึ้นได้ อาจมีความรู้สึกหน่วงๆในช่วงตีนต้น แต่เมื่อขึ้นถึง 80-100 กม./ชม.เริ่มลงตัว ขยับไป 120 กม./ชม.ตรงนี้ลงตัวเป๊ะเลย เพราะรอบเครื่องอยู่ 3,000 รอบ/นาที ถ้าโหดๆสัก 140 รอบเครื่องขึ้นไป 5,000 นะครับ 

• นมัสการหลวงปู่ทวดวัดห้วยมงคล

ทางด้านฟังก์ชันการใช้งาน รณชิตสรุปเลยนะครับ เช่น กันชนหน้ามีไฟตัดหมอก กันชนหลังมีแถบสะท้อนแสง ล้อ 16 นิ้วทูโทน ไฟหน้า/หลัง LED สปอยเลอร์หลังคามีไฟเบรค ที่วางแก้วน้ำมีตะพึดทั้งคัน แอร์หลังอยู่บนเพดาน แยกคุมกับแอร์หน้า ช่องเสียบไฟ 12 โวลต์มี 3 แห่ง ชาร์จเข้าไปนะโทรศัพท์นั่น  ส่วนความปลอดภัย เป็นปัจจัยที่ต้องถูกบรรจุไว้ในรถคันหนึ่งๆอยู่แล้วครับ

• เข้าเขตชุมพร

บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ในปัจจุบันมีสิ่งที่เรียกว่าเอกลักษณ์การออกแบบ หรือ Design Language ซึ่งเป็นเหมือนทิศทางที่กำหนดว่ารถยนต์ของแบรนด์นั้นๆ จะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไร และรถแต่ละรุ่นภายใต้แบรนด์เดียวกันนั้นจะมีเอกลักษณ์ที่เหมือนกันแบบ “ตระกูลเดียวกัน” ได้อย่างไร ขณะเดียวกัน รถแต่ละรุ่นและรุ่นย่อยจะต้องมีความแตกต่างกันด้วย เหมือนกับลูกชายลูกสาวที่มีหน้าตาคล้ายคลึงกับพ่อแม่ แต่ขณะเดียวกันต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย “รักษาจุดร่วมและคงไว้ซึ่งจุดต่าง” จบข่าว ตามนี้เลยนะครับ

• เข้าเขตระนอง

ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวของมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้ที่ 

Website : www.mitsubishi-motors.co.th

Facebook : www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH

Instagram : @MitsubishiMotorsTh

Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand

Line Official Account/ ID : Mitsubishi Motors Th / @MitsubishiMotorsTh