นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย สานต่อความมนุกกับกิจกรรม "Let’s Move" ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมกันนี้ยังได้มีการทดลองขับรถ 2 รุ่น ประกอบด้วย โน๊ต และอัลเมร่า ที่มีการปรับปรุงเพิ่มเติมในส่วนของระบบเครื่องเสียงใหม่ หน้าจอสัมผัสขนาด 7 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อทั้ง iOS ผ่าน Apple CarPlay และ Android พร้อมการเชื่อมต่อแบบแฮนด์ฟรี รวมถึงการควบคุมการโทรออก รับส่งข้อความ เล่นเพลง วีดีโอ พร้อมแอพพลิเคชั่นระบบนำทางผ่านดาวเทียม
![](https://i3.wp.com/motortrivia.com/wp-content/uploads/2018/09/nissan-thailand-lets-move-activities-2018-A02.jpg)
มร. ปีเตอร์ แกลลี รองประธานสายงานการสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย
ระบบเครื่องเสียงใหม่เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของเทคโนโลยีการเชื่อมต่อภายใต้ Intelligent Integration เป็น 1 ใน 3 แนวคิดหลัก ของ Nissan Intelligent Mobility ที่ผสานการขับและการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ของผู้ขับอย่างกลมกลืน ประกอบไปด้วย Intelligent Driving เทคโนโลยีความปลอดภัย และความสะดวกสบายในการขับ และ Intelligent Power เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนที่ให้ทั้งสมรรถนะ ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
![](https://i3.wp.com/motortrivia.com/wp-content/uploads/2018/09/nissan-thailand-lets-move-activities-2018-A04.jpg)
กิจกรรมทดสอบครั้งนี้ มีการทดสอบขับทั้งแบบไดนามิกให้สื่อมวลชนได้สัมผัสเทคโนโลยีอัจฉริยะ และระบบความปลอดภัยของ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ทั้งเทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – i-AVM) เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน (Moving Object Detection – MOD) กระจกมองหลังแสดงผล (Rear-View Mirror Monitoring) และเทคโนโลยีเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง (Lane Departure Warning – LDW) ระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ (Forward Collision Warning) และระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Forward Emergency Braking – FEB) ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้ มีความเหมาะอย่างยิ่งในการใช้ขับขี่บนถนนในเมืองที่เล็กและมีที่จอดรถค่อนข้างจำกัด นอกจากระบบเครื่องเสียงใหม่ และเทคโนโลยีนิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ แล้ว นิสสัน อัลเมร่า และ นิสสัน โน้ต เป็นรถที่มีพื้นที่ใช้สอยภายในที่กว้างขวาง สามารถให้ความรู้สึกผ่อนคลาย มากกว่ารถยนต์ในระดับเดียวกัน และโดดเด่นด้วยนวัตกรรมด้านความปลอดภัยที่ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุต่างๆ ให้ผู้ขับขี่ รถยนต์ นิสสัน ทั้งสองรุ่นนี้ยังมอบประสบการณ์การขับขี่ที่ประหยัดน้ำมัน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
![](https://i3.wp.com/motortrivia.com/wp-content/uploads/2018/09/nissan-thailand-lets-move-activities-2018-A05.jpg)
เริ่มต้นกิจกรรมที่ สยาม นิสสัน เชียงใหม่ (ดอนจั่น) ผู้บริหารกล่าวทักทายและบรรยายสรุปกิจกรรม จากนั้นจึงเริ่มออกเดินทางเป็นขบวนไปยัง ลานประเสริฐแลนด์ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม ใช้นิสสัน โน๊ต ขับสลาลอมจับเวลา เพื่อทดสอบสมรรถนะของตัวรถ อีกกลุ่มทดสอบความคล่องตัวของรถ และระบบกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง ที่ช่วยให้การขับในที่แคบเป็นเรื่องง่าย ในส่วนของการขับสลาลอมพบว่า เมื่อออกตัวด้วยการกดคันเร่งสุด เครื่องยนต์จะเริ่มตอบสนองดีเมื่อถึงไพลอนตัวท้ายๆ ซึ่งต้องลดความเร็วเพื่อเลี้ยวซ้ายหักศอก ต่อด้วยสถานีเปลี่ยนเลนกะทันหัน ช่วงล่างและพวงมาลัยของนิสสัน โน๊ต ตอบสนองได้ดีเกินคาด จึงไม่ต้องลดความเร็วลงมากนัก ต่อเนื่องด้วยโค้งซ้ายกว้างๆ เติมคันเร่งได้ยาวๆ ไปจนถึงจุดเบรกที่วางไพลอนไว้เป็นกรอบ ต้องเบรกให้รถอยู่ภายในเขตที่กำหนด เมื่อต้องกระทืบเบรกแบบฉุกเฉิน เบรกของนิสสัน โน๊ต ก็ทำงานได้ดี
![](https://i3.wp.com/motortrivia.com/wp-content/uploads/2018/09/nissan-thailand-lets-move-activities-2018-A06.jpg)
ต่อเนื่องด้วยกิจกรรมทัวร์เมืองเชียงใหม่ โดยมีไกด์นำทางเป็นนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แนะนำเรื่องของการท่องเที่ยวแบบชิลๆ ขับไปวัดกับสายบุญ ไปชิมอาหารอร่อยๆ กับสายกิน ช่วงนี้ได้ใช้ระบบนำทางกันอย่างเต็มที่ ในรถมีไอโฟนเชื่อมต่อไว้แล้ว สามารถเรียกใช้งาน App ระบบนำทางได้ง่ายๆ ช่วยให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้นจริงๆ เสร็จสิ้นกิจกรรมทั้งหมด สรุปได้โดยรวมการขับใช้งานในเมือง นิสสัน โน๊ต ขับได้คล่องตัว พวงมาลัยเบา อัตราเร่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน ทัศนวิสัยรอบคันอยู่ในเกณฑ์ดี ซอกแซกในเมืองช่วงรถติดได้คล่อง ที่สำคัญเบาะนั่งด้านหลังกว้างขวางเกินหน้าเกินตารูปลักษณ์ของรถที่ดูเป็นทรงกะทัดรัด ถ้าตัดสินใจซื้อก็บอกได้เลยว่า คุ้มค่าแน่นอนครับ......