วันที่ 1 ตุลาคม 2561 : รณชิตได้รับชวนให้ไปเข้าคอร์สสั้นในเรื่องราวของ Toyota รุ่น C-HR พร้อมร่วมทดลองขับในสนามจำลองรูปแบบต่างๆ ที่ TOYOTA Driving Experience Park ซึ่งเป็นสนามทดลองขับและทดสอบของโตโยต้า ที่ย่านบางนา
• TOYOTA Driving Experience Park บางนา
อันเนื่องมาจากแนวคิดการพัฒนา ยนตรกรรมให้ดียิ่งกว่าของโตโยต้า Ever-better Cars เพื่อสร้างยานพาหนะที่สมบูรณ์แบบ โตโยต้าได้เน้นใน 2 ด้านหลัก ได้แก่ ดีไซน์ภายนอกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ Emphasized Personality และ ความแข็งแกร่งของโครงสร้างภายใน เพื่อการขับขี่ที่เหนือระดับ Core Strength
• สถาปัตยกรรมโครงสร้างใหม่ใช้ใน Toyota C-HR เป็นรุ่นแรก
ตีโจทย์แตกโป๊!! ออกมาแล้ว ก็จะได้ข้อย่อยสถาปัตยกรรมยานยนต์ใหม่ TNGA นับจากนี้ไปคือ ออกแบบให้โครงสร้างพื้นฐานมีความแข็งแรง และมีจุดศูนย์ถ่วงที่ต่ำ ทำให้สามารถตอบสนองการขับขี่ได้ดีขึ้น การควบคุมรถที่แม่นยำ นุ่มนวลทุกสภาพถนน ทัศนวิสัยการขับขี่ที่ดีกว่า และรูปลักษณ์ที่สวยงาม
• ผ่า Toyota C-HR มาเป็นตำราเรียน
โตโยต้าได้นำสถาปัตยกรรมโครงสร้างใหม่นี้มาใช้ใน Toyota C-HR เป็นรุ่นแรก และจะนำมาใช้กับรถยนต์โตโยต้ารุ่นต่อๆไปในอนาคต รณชิตก็เลยต้องไปเข้าคอร์สสั้น โดยมีรถ Toyota C-HR ที่ถูกผ่าเปิดร่างเป็นอาจารย์ใหญ่ทุกซอกมุม และมีอาจารย์มนัส ดาวมณี คัมภีร์โตโยต้า ผู้เป็นประธานวิทยาลัยเทคโนโลยียานยนต์โตโยต้า ทำหน้าที่บรรยายม้วนเดียวจบ
• บรรยายโดยอาจารย์มนัส ดาวมณี คัมภีร์โตโยต้า
การออกแบบโครงสร้างใหม่มีดังนี้
Body rigidity - เพิ่มความมั่นคงของรถจากโครงสร้างเหล็กที่แข็งแกร่ง เช่น เพิ่มจำนวนจุดเชื่อมตัวถัง คือการ Spot welding ที่มีสะเก็ดไฟแตกกระจาย ส่วนเนื้อเหล็กตรงจุดสปอตก็จะละลายเชื่อมติดกัน ช่วยรองรับแรงบิดที่มีต่อตัวถัง เก่งในการทรงตัวและเกาะถนนมากยิ่งขึ้น
• ลดการโคลงเมื่อเข้าโค้ง
Low center of gravity – จุดศูนย์ถ่วงต่ำลง อันนี้ก็จะช่วยลดการโคลงตัวของรถ การเข้าโค้งดีขึ้น
• ช่วงล่างปีกนกสองชั้น ให้ความนุ่มนวลขึ้น
Double Wishbone Suspension ช่วงล่างด้านหลังแบบอิสระปีกนกคู่ เพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ คือรุ่นต่อๆไปจะมาในแนวปีกนกคู่เหมือนกัน ซึ่งมีจุดยึดไม่มาก
• ปรับอัตราทดพวงมาลัยและชุดควบคุมให้แม่นยำ
Good Handling พวงมาลัยมีการปรับอัตราทด และระบบ ECU ใหม่ ทำให้การตอบสนอง แม่นยำมากขึ้น ควบคุมรถง่ายและมั่นใจ
• ทดสอบความนุ่มกับคอสะพานจำลอง
Visibility การออกแบบให้ผู้ขับขี่เป็นศูนย์กลางของรถ พร้อมเพิ่มทัศนวิสัย และการลดจุดอับสายตาภายในห้องโดยสาร ด้วยการปรับกระจกด้านหน้าคนขับให้กว้างขึ้น และลดขนาดเสา เอ (A Pillar) ทั้ง 2 ด้านให้แคบลง ผู้ขับขี่จึงสามารถมองวัตถุในมุมอับได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
• เสาคู่หน้าแคบลง บานกระจกกว้างขึ้น มองเห็นเต็มตา
Comfort โครงสร้างรูปแบบใหม่ และช่วงล่างที่อิสระ สามารถลดแรงกระแทกจากพื้นถนนสู่ผู้โดยสาร ไม่เมื่อยล้าในการเดินทาง
• ช่วงล่างอิสระ ลดแรงกระแทกจากถนนสู่ห้องโดยสาร
สถาปัตยกรรมโครงสร้างยานยนต์ใหม่ TNGA นี้ก็จะไปผสานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้แก่ ระบบไฮบริดเจนเนอเรชั่นที่ 4 (4th Generation Hybrid) มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับโลกของรถโตโยต้า (Toyota Safety Sense หรือ TSS) และ ระบบที่เชื่อมต่อรถและผู้ใช้รถให้เป็นหนึ่งเดียว (Toyota T-Connect Telematics)
สนาม Toyota Driving Experience Park (TDEX) Bang Na KM.3
จุดทดสอบที่ 1 ทดสอบประสิทธิภาพการเลี้ยวในที่แคบ (วงเลี้ยวแคบสุด 5.2 เมตร) และทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ (Visibility) ในจุดอับสายตา บริเวณมุมด้านหน้าฝากระโปรงและกระจกมองข้าง กับเสาเอ (A Pillar) ทำให้สามารถเห็นอุปสรรคด้านหน้า และด้านข้างได้ชัด
• เข้าสลาลมทดสอบความคล่องตัว
จุดทดสอบที่ 2 ทดสอบความคล่องตัว (Agility) ผ่านการขับแบบสลาลม (Slalom) และการหักหลบฉุกเฉิน การตอบสนองของพวงมาลัย ร่วมกับโครงสร้างตัวถังที่แข็งแรง และช่วงล่างอิสระแบบ Double wishbone ช่วยให้เข้าโค้งได้มั่นใจ เกาะถนน และทรงตัวได้ดี
จุดทดสอบที่ 3 ทดสอบความมั่นคง (Stability) ด้วยการขับในโค้งกว้าง ด้วยจุดศูนย์ถ่วง (Center of Gravity) ที่ต่ำลง ซึ่งมาจากการออกแบบชิ้นส่วนให้ต่ำลง เช่น เครื่องยนต์ และเกียร์ ส่งผลให้ตัวรถนิ่ง มีเสถียรภาพ ไม่เหวี่ยง หรือโคลง เข้าโค้งในความเร็วสูงได้มั่นใจเต็มที่
• นุ่มนวลกับลูกระนาด
จุดทดสอบที่ 4 ทดสอบความนุ่มนวลในการขับขี่ (Comfort) ผ่านการจำลองสถานการณ์ เช่น คอสะพานที่มีความชัน ผิวทางขรุขระ และลูกระนาด ด้วยช่วงล่างอิสระแบบ Double wishbone จึงนุ่มนวลและดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้ดี