บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด แถลงผลประกอบการประจำปี 2561 คงความเป็นผู้นำอันดับหนึ่งตลาดรถหรูเมืองไทย 18 ปีติดต่อกัน ด้วยยอดขายสูงสุด 15,785 คัน ปีนี้เน้นนำเสนอรถยนต์ใหม่มากกว่า 20 รุ่น ครอบคลุมในทุกเซกเมนต์ ทั้งแบรนด์ เมอร์เซเดส-เบนซ์ (Mercedes-Benz), เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี (Mercedes-AMG), เมอร์เซเดส-มายบัค (Mercedes-Maybach) และแบรนด์เทคโนโลยี อีคิว (EQ)
ล่าสุดประเดิมเปิดตัว เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ และ E 53 4MATIC+ Coupé รุ่นนำเข้า พร้อมเตรียมเปิดคลังอะไหล่แห่งใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ และวางแผนแต่งตั้งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มอีกสี่แห่งภายในสิ้นปี 2562
ปี 2561 เมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก ครองตำแหน่งรถหรูที่มียอดขายมากที่สุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน จากยอด 2,310,185 คัน และยังเป็นสถิติการเติบโตที่ต่อเนื่องแปดปี โดยมีรถเอสยูวีเป็นหลักของความสำเร็จจากยอด 820,721 คัน นอกจากนี้เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ยังสร้างยอดจำหน่ายสูงถึงหกหลัก ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์รวมถึงจัดแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยเพิ่มเติมตระกูล 53 อีกทั้งรถยนต์ในกลุ่มคอมแพคคาร์ ที่จำหน่ายออกไปในจำนวน 609,000 คัน
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในปีที่ผ่านส่งมอบให้ลูกค้าจำนวน 943,473 คัน มีอัตราการเติบโต 7.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยประเทศญี่ปุ่น อินเดีย ไทย มาเลเซีย และเวียดนาม มียอดขายที่สูงกว่าปีที่ผ่านมา ประเทศไทยทำลายสถิติด้วยยอดจำหน่าย 15,785 คัน เติบโตขึ้น 9% ครองตำแหน่งอันดับหนึ่งในตลาดรถหรูไว้ได้เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน
ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เปิดตัวรถยนต์ 16 รุ่น โดยแบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยอัตราการเติบโตจากปีก่อนหน้า 309% ทั้งรุ่นนำเข้า และรุ่นประกอบในประเทศ 5 รุ่น ในปีนี้จะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ในตระกูลเอเอ็มจีอย่างต่อเนื่อง ประเดิมด้วย 2 รุ่นใหม่ เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ และ E 53 4MATIC+ Coupé รุ่นนำเข้า ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี EQ Boost เพื่อเพิ่มพลังให้กับรถยนต์มากขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดตัว AMG Brand Center แห่งแรกในประเทศไทย โดยจะเป็นศูนย์ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการรถยนต์แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีที่มีความทันสมัย และมีเพียง 11 แห่งจากทั่วโลก
ด้านรถพลังงานไฟฟ้า ในปีที่ผ่านมาได้ตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ มีการจับมือกับสามเครือโรงแรมชั้นนำขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ปัจจุบันเมอร์เซเดส-เบนซ์ มีจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ารวมกว่า 200 แห่ง ในปีนี้บริษัทฯ เตรียมนำเสนอรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์อีคิวตลอดทั้งปีทั้ง EQ Power รถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด EQ Power+ ที่เป็นส่วนหนึ่งในรถยนต์แบรนด์เมอร์เซเดส-เอเอ็มจี และกลุ่มรถยนต์แต่ง และ EQ สำหรับรถยนต์ Battery Electric Vehicles หรือ BEV พร้อมวางแผนขยายจุดชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มอีก 80 แห่ง
นอกจากนี้ยังสนับสนุนนักเรียนอาชีวะภายใต้โครงการเยอรมัน-ไทย ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมกับเมอร์เซเดส-เบนซ์ 4 แห่ง ได้แก่ วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ วิทยาลัยเทคโนโลยีภาคตะวันออก วิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก และวิทยาลัยเทคโนโลยีดอนบอสโก บ้านโป่ง ในปีที่ผ่านมามีนักเรียนที่สำเร็จการศึกษาเข้าทำงานที่ผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้ว 30 คน และในปี 2562 นี้มีนักเรียนที่เข้าร่วมโปรแกรมการฝึกอบรมและเซ็นสัญญาเข้าทำงานกับผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการหลังจบหลักสูตรในปี 2563 แล้วอีก 52 คน
ในปี 2562 บริษัทฯ ได้เตรียมเปิดคลังอะไหล่แห่งใหม่ Parts Distribution Center ที่ถนนบางนา-ตราด กม.19 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ ปัจจุบัน เมอร์เซเดส-เบนซ์ มีผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ 32 แห่ง แบ่งเป็นพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 17 แห่ง ต่างจังหวัด 15 แห่ง และเตรียมแต่งตั้งผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการเพิ่มอีก 4 แห่ง ในเขตกรุงเทพมหานคร 2 แห่ง และต่างจังหวัดอีก 2 แห่ง และขยายศูนย์บริการสีและตัวถังที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานเมอร์เซเดส-เบนซ์อีก 4 แห่งรวมเป็น 15 แห่งทั่วประเทศ
ข้อมูลผลิตภัณฑ์
เมอร์เซเดส-เอเอ็มจีตระกูล 53 ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร กำลัง 320 กิโลวัตต์ (435 แรงม้า) มีระบบอีคิวบูสท์ EQ Boost รวมถึงสามารถสร้างและจ่ายไฟเพื่อเลี้ยงระบบไฟฟ้าของรถที่ใช้แรงดัน 48 โวลต์ได้ ระบบอีคิวบูสท์เป็นมอเตอร์ไฟฟ้าแบบพิเศษ ทั้งยังเป็นตัวกลางประสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับเกียร์ด้วย
Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ
ภายนอก กระจังหน้าแบบแผงบังคับลมคู่ สีเงินชุบโครเมียม ท่อไอเสีย AMG Sports exhaust system, ล้ออัลลอยจาก AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ไฟหน้า MULTIBEAM LED with ULTRA RANGE Highbeam มีคุณสมบัติเหนือกไฟ LED มาตรฐาน (ที่มีหลอดไฟ LED 84 หลอดต่อข้าง) เช่น ระบบไฟส่องสว่าง ขณะขับผ่านสี่แยกหรือวงเวียน ระบบไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเมือง ระบบไฟส่องสว่างสำหรับสภาวะอากาศเลวร้าย และสามารถส่องสว่างได้ไกลถึง 650 เมตร รวมถึงหลังคาซันรูฟเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ภายใน ตกแต่งพิเศษโดยเมอร์เซเดส-เอเอ็มจี จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว ทำงานร่วมกับ MB Audio 20 พร้อม Touchpad และ Controller ผู้ขับขี่สามารถปรับแต่งการแสดงผลได้ 3 รูปแบบได้แก่ Classic, Sport และ Progressive พวงมาลัย AMG Performance Steering Wheel ที่เพิ่มความกระชับ ไฟในห้องโดยสารปรับได้ 64 สี และระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system
ด้านความปลอดภัย มีระบบ AMG DYNAMIC SELECT, ระบบ PRE-SAFE® Plus และระบบแสดงผลข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า Head-up display มีเทคโนโลยีเกียร์ AMG SPEEDSHIFT TCT 9G transmission ที่ตอบสนองดีขึ้นเมื่อผู้ขับขี่เปลี่ยนเกียร์ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ พร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ แบบแปรผันได้สมบูรณ์แบบ ระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension ที่ทำงานโดยอัตโนมัติ
รุ่น
|
เครื่องยนต์
|
ปริมาตร
กระบอกสูบ (ซีซี)
|
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/
รอบต่อนาที)
|
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)
|
อัตราเร่ง
0-100
กม./ชม.
(วินาที)
|
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)
|
Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+
|
เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ
|
2,999
|
435 / 6,100
|
520 /
1,800-5,800
|
4.5
|
250
|
- Mercedes-AMG CLS 53 4MATIC+ รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 5,350,000 บาท
E 53 4MATIC+ Coupé
ภายนอก รูปลักษณ์คูเป้ ตกแต่งกระจกมองข้างและขอบบานกระจกด้วยสีดำ ท่อไอเสีย AMG Sport exhaust system ปลายท่อคู่ 2 round twin tailpipe look สปอยเลอร์ด้านหลังบนฝากระโปรงท้าย AMG Spoiler lip ล้ออัลลอย AMG แบบ 5 ก้านคู่ ขนาด 20 นิ้ว ตกแต่งด้วยสีดำ ไฟหน้า MULTIBEAM LED ไฟท้าย LED หลังคาพาโนรามิคซันรูฟเลื่อนเปิด-ปิดด้วยไฟฟ้า
ภายใน ตกแต่งห้องโดยสารด้วย Metal-weave และ Black piano เบาะนั่ง ARTICO leather ตัดสลับ DINAMICA Microfibre เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน พวงมาลัย AMG Performance steering wheel หุ้มหนัง nappa ตกแต่งด้วย DINAMICA Microfibre พร้อมเพาเวอร์ปรับระดับด้วยไฟฟ้า ปรับน้ำหนักตามระดับความเร็ว มีระบบป้อนเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติ สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารด้านหน้า มีระบบมัลติมีเดีย หน้าจอแสดงผล Digital widescreen cockpit ระบบ MB Audio 20 จอแสดงผลขนาด 12.3 นิ้ว ฟังก์ชันเชื่อมต่อโทรศัพท์มือถือ Apple CarPlay™ และ Android Auto ระบบชาร์จมือถือแบบไร้สาย ระบบเสียงรอบทิศทาง Burmester® surround sound system รวมถึงระบบไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 สี
ความปลอดภัย ระบบการขับขี่แบบ AMG DYNAMIC SELECT ที่ผู้ขับสามารถเลือกใช้โหมดการขับขี่ให้สอดคล้องกับความต้องการได้ เช่น ขับขี่แบบเร้าใจ และขับขี่แบบนุ่มสบาย ระบบกุญแจ KEYLESS-GO เปิด-ปิดฝากระโปรงท้ายอัตโนมัติไม่ต้องใช้มือ HAND-FREE ACCESS ระบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ THERMATIC แบบ 2-Zones ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ Adaptive Highbeam Assist ระบบปรับโคมไฟหน้ารถตามการเลี้ยวของพวงมาลัย ALS (Active Light System) ระบบช่วยนำรถเข้าจอดอัตโนมัติ Parking Pilot including Active Parking Assist ระบบนำทาง navigation system ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อพร้อมเทคโนโลยี AMG Performance 4MATIC+ รวมไปถึงระบบช่วงล่างแบบถุงลม AMG RIDE CONTROL+ Suspension
รุ่น
|
เครื่องยนต์
|
ปริมาตร
กระบอกสูบ (ซีซี)
|
แรงม้าสูงสุด (แรงม้า/
รอบต่อนาที)
|
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตรที่ความเร็วรอบต่อนาที)
|
อัตราเร่ง
0-100
กม./ชม.
(วินาที)
|
ความเร็วสูงสุด (กม. / ชม.)
|
Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé
|
เบนซิน แถวเรียง 6 สูบ
|
2,999
|
435 / 6,100
|
520 /
1,800-5,800
|
4.4
|
250
|
- Mercedes-AMG E 53 4MATIC+ Coupé ราคา 6,990,000 บาท
ติดตามข้อมูลได้ที่ www.facebook.com/MercedesBenzThailand