กุญแจรีโมทใช้พลังงานจากถ่านหรือแบตเตอรี่จะเสื่อมเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราและรถแต่ละรุ่น หากไหวตัวทันก็ควรรีบเปลี่ยนให้เรียบร้อยก่อนจะเกิดปัญหา โดยสังเกตจากอาการผิดปกติเมื่อถ่านหรือแบตเตอรี่ใกล้หมด !!! แล้วจะรู้ได้อย่างไรเมื่อรีโมทแบตเตอรี่หมด ????
- กว่าจะปลดล็อคประตูรถได้ต้องกดรีโมทย้ำหลายครั้ง เป็นต้น เจอแบบนี้ให้รีบเช็คโดยด่วน
- เมื่อกดรีโมทแล้วไม่มีสัญญาณตอบจากรถ ไฟเลี้ยวไม่กระพริบ อาการพวกนี้เป็นอาการบ่งชี้
เมื่อรีโมทใช้งานไม่ได้ ต้องทำอย่างไร ???
- หากเป็นรีโมทที่มีกุญแจด้วยก็สามารถใช้กุญแจไขแทนได้ แต่หากถ้ามีเสียงสัญญาณเตือนดังก็เอากุญแจเสียบแล้วบิด เสียงเตือนก็จะหยุดลง จากนั้นก็เปลี่ยนถ่านหรือแบตเตอรี่ให้รีโมทรถคุณครับ
- หากเป็นกุญแจรีโมทที่ไม่ต้องใช้กุญแจในการสตาร์ท แต่ใช้การกดปุ่ม Push Start แทน คราวนี้ล่ะเรื่องใหญ่เพราะเมื่อไม่มีสัญญาส่งไปจากรีโมท รถก็จะไม่ยอมสตาร์ทให้ ต้องทำไงล่ะทีนี้ ??? ให้ลองเอารีโมทไปวางใกล้ๆ ปุ่ม Push Start แล้วลองกดปุ่มสตาร์ทสัก 3-4 ที ถ้ากุญแจรีโมทยังพอมีกระแสไฟบ้าง การวางใกล้ๆ ก็อาจยังพอมีกระแสไฟส่งผ่านให้สามารถสตาร์ทรถได้ แต่หากกระแสไฟน้อยเกินไป อันนี้ก็จนปัญญาครับ เปลี่ยนแบตเตอรี่ก้อนใหม่ก่อนอย่างเดียว
ทริคนี้อาจจะเป็นแค่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หากไม่อยากเกิดกรณีเหล่านี้ควรหมั่นดูแลเช็คสภาพรีโมทเราให้ดี เมื่อมีสัญญาณเตือนเหมือนที่ยกตัวอย่างไปแล้วก็รีบเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ ทางที่ดีเมื่อครบหนึ่งปีก็เปลี่ยนได้เลยครับ ระวังอย่าทำรีโมทตกพื้นบ่อย อย่าโดนน้ำ หรือทิ้งไว้ในที่ชื้น และใส่ซิลิโคนกันกระแทกเพื่อยืดอายุการใช้งานของรีโมท หรือบางท่านถ้าจะพกถ่านหรือเเบตเตอรี่สำรองเก็บไว้ในรถหรือติดตัว อันนี้ก็แก้ปัญหาได้ที่ต้นเหตุเลยครับ