ชวนบังอรไปชุมพร ... กินแล้วก็นอน ... นะเออ ...

หากเดินทางไปยังเส้นทางสายใต้ เมื่อเข้าเขตจังหวัดชุมพร จะถือว่าเราก้าวเข้าสู่ภาคใต้แบบเต็ม 4 ล้อ (ที่บอกแบบนี้เพราะผมขับรถไป) เราอาจไม่ได้คิดว่าจังหวัดนี้มีอะไรที่น่าสนใจมากพอจะดึงดูดใจให้เราต้องแวะมาเที่ยวได้ บางคนคิดว่าเป็นแค่ทางผ่านเพราะการโปรโมทให้ท่องเที่ยวในจังหวัดนี้มีน้อย ไม่ค่อยเห็นตามสื่อต่างๆ มากเท่าไหร่นัก ส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวชุมพรกันก็จะนึกถึงแต่ หมู่เกาะ ทะเล ประมาณนั้น แล้วถ้าเบื่อเที่ยวทะเลละ ... ชุมพรจะมีอะไรน่าสนใจมั้ย .... บอกได้เลยว่า “มี” ทั้งเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจสนใจ แถมยังมีของอร่อยที่ต้องบอกเลยว่า ถ้ากลับมาอีก ไม่พลาดที่จะต้องไปซ้ำอย่างแน่นอน เอาเป็นว่าจังหวัดนี้มีอะไรดีที่ทำให้เราถึงกับต้องยอมเลี้ยวรถเข้าไปเที่ยวได้นะ มาติดตามกันดีกว่า .... ลงใต้คราวนี้ เราตั้งใจไปหลายที่ ทั้งเส้นทางปกติ และเส้นทางเขา พอดีได้รับความเอื้อเฟื้อจากทางอีซูซุ กับ อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ วี-ครอส MAX 4X4 ให้เป็นพาหนะเพื่อการท่องเที่ยวเพื่อสนองความอยากของตัวเอง เรื่องเที่ยวต้องมาก่อน ... เรื่องงานไว้ทีหลัง 5555
.jpg)
ตามสไตล์ของผมที่เป็นคนชอบขับรถ การเดินทางไกลของผมก็ชอบเดินทางกลางคืน เพราะรถน้อย แสงไฟจากไฟหน้ารถฝั่งตรงข้ามและไฟท้ายจากรถคันหน้า เห็นได้ตั้งแต่ระยะไกล ในความรู้สึกส่วนตัว ถ้าเข้าใจก็จะรู้ว่ามันมีส่วนช่วยในเรื่องของความปลอดภัยในการขับขี่มากพอสมควร ขับไปเรื่อยๆสบายๆ ผ่านเส้น สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี แยกซ้ายเข้าชะอำ ไปผ่านตัวเมืองหัวหินดีกว่า ขี้เกียจไปวิ่งเส้นบายพาสตอนกลางคืน รถใหญ่มักไม่ค่อยหลบซ้าย วิ่งกันเต็มถนน ตามกันไปกว่าจะแซงได้ น่าเบื่อ .... ผ่านประจวบคีรีขันธ์ ที่วัดความยาวจากทิศเหนือจรดทิศใต้ ประมาณ 212 กิโลเมตร ถือว่าเป็นช่วงที่ยาวที่สุดเวลาลงใต้ หลายคนที่ขับผ่านเส้นนี้ จะเบื่อช่วงนี้มากที่สุด แต่สำหรับผมเพลินๆ ไปเรื่อยๆ ไม่รีบครับ ยิ่งช่วงดึกรถน้อย ขับอยู่คันเดียว ยิ่งสบายเลย มาชุมพรครั้งนี้ตั้งใจจะขึ้นไปเที่ยวเขาทะลุ เลยต้องขับออกนอกเมืองไปอีกประมาณ 40 กว่ากิโล เราไปเลี้ยวขวาที่ “แยกเขาปีบ” ตรงเข้าไปอีกประมาณ 20 กว่ากิโลก็จะถึง อำเภอเขาทะลุ ตอนแรกตั้งใจจะขึ้นไปชมทะเลหมอกบนดอยตาปัง แต่เนื่องจากมีฝนตก และสภาพเส้นทางขึ้นดอยตาปังเป็นทางแคบ เพื่อความปลอดภัย ก็เลยตัดสินใจไม่ขึ้นไปจะดีกว่า ได้แวะผ่านไปถ่ายรูปกับเขาทะลุหน่อยนึง ... เพื่อให้สมความตั้งใจ แม้จะไม่ได้ครบอย่างที่อยากก็ตาม ... เศร้า แพร๊บบบ ...

*** ดูดีๆ รูเขาทะลุ อยู่ลิบๆ ***
เป้าหมายแรก ไม่บรรลุ ไปเป้าหมายต่อไปเลยครับ มาชุมพรยังไงก็ต้องไปสักการะศาลพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ผู้ทรงสถาปนากองทัพเรือให้กับประเทศไทย ที่ตั้งอยูบนเนินเขาทางทิศเหนือของหาดทรายรี ซึ่งหาดทรายรี เป็นสถานที่สิ้นพระชนม์ของพระองค์ ศาลเสด็จในกรมฯ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ผู้มาเที่ยวในจังหวัดชุมพร จะต้องมาสักการะขอพร “เสด็จเตี่ย” เพื่อขอพรให้มีโชคมีชัย พร้อมนำเครื่องสักการะมากราบไว้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเซ่นไหว้ กุหลาบแดง หรือจะเป็นประทัด นำมาจุดแก้บน มั่นใจได้ว่ามาที่นี้ ต้องฮึกเหิมเมามันส์กับเสียงประทัดดังเปรี้ยงปร้างอยู่ตลอดทั่วทั้งบริเวณ ปัจจุบันศาลกรมหลวงฯ ชุมพร ทั้งหลังเก่า และหลังใหม่ที่สร้างบนเนินเขา และมีเรือรบหลวงชุมพร เรือตอร์ปิโดขนาดใหญ่ ที่ปลดประจำการแล้วตั้งอยู่ข้างๆ อนุสรณ์สถานด้วย

*** ด้านหน้าศาลกรมกลวงชุมพร ***

*** รูปปั้น “เสด็จเตี่ย” ที่คนชุมพรต้องมากราบไหว้ ***

*** เรือรบหลวงชุมพร ***
กร๊อดดด ๆๆๆๆ ..... เสียงท้องร้องแล้วอ่ะ โหยยย ยกนาฬิกาขึ้นมาดู เกือบ 11 โมงแล้ว ตั้งแต่เช้ายังได้กินอะไรเลยยยย ... เรื่องกินเรื่องใหญ่ ไปหาไรกินก่อน เดี๋ยวค่อยไปเที่ยวต่อ ร้านเด็ดร้านดังของจังหวัดชุมพร หามาแล้วตั้งแต่ก่อนมา ได้ยินชื่อเสียงมานาน ของอร่อยพลังเตาถ่านที่ “ร้านยายปวด” หูยยยย หรอยจังฮู้! มีความแหลงใต้กันเบาๆ เราไปเปิดเมนู ร้านยายปวดกัน อาหารใต้ดั้งเดิม ไม่กินเหมือนไม่ถึงชุมพรนะ ขอบอกกก ...
สำหรับเส้นทางไปที่ร้าน อาจจะยากหน่อย จากกูเกิ้ลแมพเปิดหา ด้วยจังหวะที่เหมาะเจาะ ระบุว่าอีกประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมงจะถึงร้าน จากสี่แยกปฐมพร วิ่งตรงเข้าเมืองชุมพรครับ พอมาถึงสามแยกไฟแดง ให้เลี้ยวขวา ไปทางปากน้ำชุมพรครับ ขับผ่านไป 2 ไฟแดง พอเลยไฟแดงที่ 2 ให้กลับรถ มาเลี้ยวเข้าซอยปรมินทรมรรคา 24 (ซอยวัดบางหมาก) ตรงเข้าไปในซอย 500 เมตรครับ จะเจอร้านเลย สังเกตุง่ายๆมีรถจอดอยู่เยอะๆ (แนะนำใช้กูเกิ้ลแมพ ไม่มีหลง)
.jpg)
เมื่อมาถึงร้านแล้วบอกก่อนนะว่า บรรยากาศไม่ได้ว้าว หรือสวยงามหรูหราอะไรมากมายนัก บอกเลยความธรรมดาพื้นบ้านสุดๆ เป็นร้านอาหารตามสั่งที่เปิดหน้าบ้านของตัวเอง มีโต๊ะรอบๆ เต็มไปด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ แต่สิ่งแรกที่เราประทับใจไม่ใช่สถานที่หรือบรรยากาศใดๆ ทั้งสิ้น แต่อยู่ตรงกลิ่นเครื่องแกงของแกงเหลืองที่มีพลังทำลายสูงมาก ทะลุเข้าโพรงจมูก ทะลวงเข้าไปถึงต่อมไซนัส โอ้โห ... รับรู้ได้เลยว่า เผ็ด แน่นอน ร้านยายปวด ปัจจุบันที่เห็นทำอาหารกันอยู่เป็นรุ่นที่ 2 ที่มาดูแล ซึ่งก็คือ ลูกสาวของยายปวดนั่นเอง หาที่นั่งได้เรียบร้อยก็เริ่มบรรเลงสั่งจากเมนูกระดาษธรรมดา แค่อ่านก็แล้วหิวอ่ะ .....

เมนูแรกที่ต้องสั่ง เพราะกลิ่นกระแทกจมูกมาตอนเข้าร้านคือ “แกงเหลืองปลากะพงผักรวม” และแล้ว ตอนมาเสริฟ พลังของกลิ่นก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ยกมากลิ่นขมิ้นและเครื่องแกงโชยฟุ้งมาและสีน้ำแกงก็ข้นคลั่ก วางลงบนโต๊ะปั๊บรีบนำช้อนมาตักซดทันที หลังจากทะลวงจมูกไปแล้ว ก็ทะลวงลำคอลงไปถึงลำไส้เลย ฟินกับรสชาติที่เผ็ดร้อน ดุดัน แต่ซดแล้วอร่อยชื่นใจ และกินกับข้าวสวยร้อนๆ ผสมกับปลากะพงสดเนื้อรสหวาน กับผักสารพัดชนิด บอกได้ว่าอร่อยจัดปลัดตบหน้าอกร้องว้าวจริงๆ ถ้วยนี้กินได้ 4 คนพอดิบพอดี กินไปเหงื่อท่วมไป ....

*** แกงเหลืองปลากะพงผักรวม ***
เมนูที่ 2 "ปลาอินทรีย์ทอดเกลือ" ตอนยกมาเสริฟ คาดการณ์จากสายตาแล้ว มาชิ้นใหญ่บิ๊กบึ้มมากครับ ราคาต้องไม่ต่ำกว่า 200-250 แน่นอน แต่ดูจากในเมนู บร๊ะเจ้า 150 บาท ป้าแกขายเอามันส์ป่าววะ ทำไมถูกจัง ลักษณะทางกายภาพทั่วไปของจานนี้ เนื้อปลาถูกปกคลุมไปด้วยเกร็ดเกลือบางๆ ที่ชุบตัวปลาก่อนนำลงไปทอด ชิ้นปลาเหลืองทั่ว ใช้ช้อนจิ้มลงไป กรอบ กลิ่นเนื้อปลาผสมความเค็มหอมหวนออกมาแตะโสตประสาทรับกลิ่น ตักเข้าปาก เนื้อปลาสด เนื้อแน่น มีรสชาติเค็มนิดๆ ตักน้ำปลามะนาวที่ซอยหอมแดงลงไปด้วย โรยที่ชิ้นปลา ตักพร้อมข้าวสวยร้อนๆ ตักเข้าปาก เคี้ยวไปแล้วยอมเลย ราคาแพงกกว่านี้กูก็จ่าย กลมกล่อม สมบูรณ์แบบ สุดจัดจานที่ 2 ปลัดถึงขนาดต้องยกมือ 2 ข้างมาตบอกบอกว่าแม่งอร่อยจัดจริงๆ

*** ปลาอินทรีย์ทอดเกลือ ***
เมนูที่ 3 มาร้านนี้ถ้าไม่สั่งเมนูนี้โดนประมาณแน่นอน มันคือ “หมูสามชั้นคั่วเค็ม” เน้นมันหมู พวกเฮลท์ตี้ ไม่ต้องวิจารณ์ ไม่ต้องออกความเห็น มองผ่านไปได้เลย เพราะมันคือเมนูเทพเจ้าไขมันในเส้นเลือดล้วนๆ คำแรก ตักเข้าปากพร้อมข้าว เอาน้ำมันหมูเยิ้มๆ ในจานราดไปด้วย อร่อยหวานเค็ม ใครไม่กินมันหมูบอกเลยเสียชาติเกิด ไม่มีทางรับจุดสุดยอดของเมนูนี้ได้แน่นอน

*** หมูสามชั้นคั่วเค็ม ***
และเมนูที่ 4 ก็ตามมาติดๆ "กุ้งทอดซอสมะขาม" เพราะสงสัยว่าในเมนูบอกว่าซอสมะขามทำจานต่อจาน ไม่ทำทิ้งไว้เยอะๆแล้วตักมาราด แบบนี้ต้องลองของกันหน่อย หลังจากยกมาเสริฟ กุ้งตัวไม่ใหญ่มาก ถือว่ากำลังพอดี น่ากิน ทอดมาค่อนข้างกรอบ ราดด้วยซอสมะขาม แกะกุ้ง ตักซอสมะขามราด ตักเข้าปาก .... นั่นไง ว่าแล้ว ที่เมนูเขียนดันไม่เชื่อ ทำไมเหรอ ... ร้อนซิครับ ซอสมะขามเพิ่งทำมาใหม่ๆ ทำทีละจานจริงๆ ร้อนลวกปากลวกลิ้น สรุปผลการลองของจานนี้ เราแพ้ เพราะทำใหม่ทุกจานอย่างที่บอก รสชาติถือว่าผ่าน กุ้งสด ซอสรสชาติ เปรี้ยว หวาน เค็ม ครบถ้วนตามสูตร

*** กุ้งทอดซอสมะขาม ***
เมนสุดท้าย จบที่ “มะระผัดไข่” อันนี้เป็นความอยากส่วนตัว สั่งมากินคนเดียว ไม่แบ่งใคร ยกมาเสริฟ หอมมะระ กลิ่นแบบไหม้ๆ ผสมกับไข่ ตักเข้าปากเพียวๆ ไม่ง้อข้าว ขมนิดๆ ไม่มาก แต่ที่ชอบมากสำหรับเมนูนี้ของร้านยายปวดคือ การใช้เตาถ่านในการผัด มันจะมีออฟชั่นเสริมเรื่องกลิ่นเป็นแบบฉบับเฉพาะ ที่เตาแก๊สไม่สามารถเสนอหน้ามาทำแบบนี้ได้ กลิ่นหอมรัญจวน หันไปดูด้วยราคา 80 บาท โห ... ของอร่อย ราคาถูก ใครว่าไม่มี มาร้านนี้เหอะ แล้วจะรู้ ...

*** มะระผัดไข่ ***
บทสรุป ... “ร้านยายปวด” เรื่องรสชาติให้ผ่านทั้งคณะแบบไม่มีข้อกังขา ไม่ต้องรอนับคะแนนใหม่ เรื่องราคาอาหารถือว่าถูก คุ้มค่ากับคุณภาพอาหารที่ได้รับ บรรยากาศร้านง่ายๆ บ้านๆ ธรรมดา ถ้ากระแดะต้องนั่งร้านดีเชิญแดรกที่อื่น นี่คือพูดแบบจริงใจรับไม่ได้ผ่านเลยครับ พอปิดจ๊อบจบที่ร้านนี้ ผมมีอาการปวดทันที ... ปวดท้องแน่นท้อง คือยัดเข้าไปเกินขีดจำกัด งานนี้บอกได้คำเดียว เข้มข้นถึงเครื่องทุกคำ ถ้าผ่านชุมพรมาครั้งหนึ่งขอให้ลอง หลังจากลองครั้งแรกแล้ว ผมขอบอกเลยว่าต้องมีซ้ำแน่นอน ...

*** ความอร่อยจากเตาถ่านในทุกเมนู ***

กินอิ่ม ... ง่วงละซิทีนี้ ทำไงละ ต้องกาแฟซิครับ เปิดหาเลยร้านนั่งชิลๆ เติมคาแฟอีนในกระแสเลือดหน่อย เปิดหาไปเรื่อยๆ สะดุดตาที่ร้านนี้ เพราะออกแนวเรโทร เน้นไม้เป็นหลัก ประตูสวย ... เอาร้านนี้แหละ “Good Morning Chumphon” เป็นร้านอาหารและร้านกาแฟ รวมๆกัน สไตล์การออกแบบเน้นไปทางโมเดิร์นคลาสสิค เค้าปรับปรุงมาจากบ้านไม้เก่าอายุกว่า 40 ปี บรรยากาศเรโทรน่านั่งจริงๆ ร้านอยู่ใกล้กับแม็คโครสังเกตป้ายจากหน้าซอยทางเข้าได้ ถ้ามาจากแยกปฐมพร เข้าตัวชุมพร ซอยทางเข้าร้านอยู่ทางก้านซ้ายมือ เข้าซอยประมาณ 100-200 เมตร ร้านอยู่ทางขวามือ


*** ประตูบานใหญ่ใช้ไม่เก่าทั้งหมด ***
เข้ามาภายในร้าน มีมุมถ่ายรูปแบบเยอะมาก คือตั้งแต่ด้านหน้าร้าน ประตูทางเข้าก็เก๋ เข้ามาด้านข้างที่จอดรถก็มีอีกประมาณ 3-4 มุม ด้านหลังร้านก็มี คือถ้าจะมีพื้นที่ขนาดนี้ กว่าจะได้เข้าไปนั่งกินในร้าน สงสัยหมดเวลาถ่ายรูปไปก่อนละ 3 ชั่วโมง แต่ที่ต้องยอมรับเลยคือเรื่องของบรรยากาศร้านชิลดีจริงๆ ไม่ว่าจะนั่งในร้านหรือด้านนอก มีต้นไม้ ร่มไม้เยอะมาก มีอาหารให้เลือกหลากหลาย เช่น อาหารไทย ประยุกต์ แนวฝรั่ง



แต่วันนี้ โดยทรมานท้องจากความอิ่มแน่นมาจากร้านยายปวดแล้ว มาที่นี่อยากแค่จิบกาแฟ เติมคาเฟอีน กระตุ้นการตื่นตัวหน่อย ต้องโดนซักหน่อย แต่ไม่อยากจะเข้มมาก เลยเลือกเอสเปรสโซ่เย็น แบบหวานน้อย น้องที่ร้านบอก เอาหวานแค่ 0.5 ออนซ์ นมจืดแค่ 2 ออนซ์ พอ รับรอง เข้มกำลังดีแบบที่พี่ร้องขอแน่นอน .... นำเสนอมาขนาดนี้ ต้องจัดซะหน่อย สรุปได้ออกมาแบบที่ต้องการเลยครับ น้องบาริสต้าที่ร้านนี้ มีความเข้าใจเรื่องการมิกซ์พอสมควร แนะนำลูกค้าได้ชัดเจน มีการอธิบายเรื่องสัดส่วนของนมจืด และ นมข้นที่ใช้เพิ่มความหวานได้ดี กาแฟต้นทางอ่ะ มันแล้วแต่ร้านว่าจะใช้อะไร ที่นี่ใช้กาแฟเขาทะลุที่เป็นของพื้นถิ่นอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นเข้มข้นแน่นอน จะลากยาวผ่านน้ำร้อนมากขนาดไหน จะเบิร์นมาเข้มขนาดไหน มันแล้วแต่คนชอบ สั่งได้อยู่แล้ว ส่วนการมิกซ์นี่เป็นศิลปะเฉพาะเลย บางที่กาแฟมาดีแล้ว ใช้นมจืดและนมข้มคุณภาพต่ำ รสชาติออกมา ตกเหวไปเลยก็มี อันนี้ขอชมน้องบาริสต้าร้านนี้เป็นการส่วนตัว อร่อยครับ ยกนิ้วเลย

*** เติมเอสเปรสโซ่เพิ่มพลังซักแก้ว สดชื่นนนนน ***

*** จุดชมวิว เขามัทรี สวยจริงสมคำร่ำลือ ***

*** กาแฟถ้ำสิงห์ รสชาติเข้มข้นสไตล์โรบัสต้าแท้ๆ ***

*** แสงแรกที่ชายทะเลชุมพร ***
ได้เวลา.. เดินทางกลับ !!! เต็มอิ่มกับการเที่ยว “ชุมพร” แล้ว ก็ได้เวลาที่จะต้องลาเมืองชุมพรซักที ทริปชุมพรคราวนี้ ได้มาไหว้ “เสด็จเตี่ย” เพื่อขอพร เติมพลังกับรสชาติอาหารที่แรงทั้งกลิ่นและรสชาติที่ร้านยายปวด สดชื่นกับกาแฟที่ชงมาโดนใจ ทำครบ จบตามความต้องการแล้ว ... ไม่มีอะไรจะมีความสุขมากกว่าการออกมาใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากทำ อยากขับรถเที่ยวก็ได้ขับ ... อยากกินของอร่อยก็ได้กิน ... ใครอยากทำอะไร รีบทำซะ อย่าช้า อย่าให้เสียเวลาชีวิตไปมากกว่านี้ ใช้มันให้คุ้ม แก่ลงทุกวัน ออกไปเที่ยวซะก่อนที่จะไปเที่ยวไม่ไหวนะ ... อ่านจบแล้ว รีบไปจัดทริปเที่ยวเลย พูดจริงๆ

สุดท้ายนี้.. ต้องขอขอบคุณ อีซูซุดีแมคซ์ บลูเพาเวอร์ วี-ครอส MAX 4X4 ที่ทำให้การเดินทางไปเยือน “ชุมพร” รู้สึกสะดวกสบายมากขึ้น แล้วเราจะได้พบกันใหม่ในเร็วๆ นี้อีกแน่นอนครับ!