มิงกะละบา เที่ยวพม่า 4 คืน 5 วัน Go Anywhere ไปกับนิสสัน (ตอนจบแล้วนะจ๊ะ)


DAY 5 KENG TUNG - Chiang Rai (217 KM) เชียงตุง เป็นจังหวัดหนึ่งในรัฐฉาน ประเทศเมียนมา บ้านพี่เมืองน้องติดชายแดนไทย ตรงข้ามกับอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ยังเป็นจังหวัดเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกับประเทศไทยมายาวนากว่า 700 ปี หลังจากพม่าเปิดประเทศ เชียงตุงในวันนี้มีความเปลี่ยนแปลง มีสีสันของการท่องเที่ยวเข้ามาแต่งแต้มมากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนให้เห็นว่ากำลังมีสัญญาณที่ดีสำหรับการท่องเที่ยวตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา
เชียงตุง เป็นหนึ่งในจังหวัดสำคัญในรัฐฉาน ทางฝั่งตะวันออกของประเทศเมียนมา และอยู่ห่างจากชายแดนไทยด่านแม่สาย-ท่าขี้เหล็กไม่ไกลนัก ประชากรส่วนใหญ่ของชาวเชียงตุงส่วนเป็นชาวไต หรือ ชาวไท มีชาวเมียนมาอาศัยอยู่บ้าง แต่ก็ไม่จำนวนไม่มาก ภูมิประเทศส่วนใหญ่ของเมืองเชียงตุงล้อมรอบด้วยภูเขา มีที่ราบน้อย สังเกตดูภูมิทัศน์สองข้าทางดีๆ จะเห็นเลยว่าชาวบ้านจะทำการเกษตรแบบขั้นบันไดไปตลอดเส้นทาง บ้านเรือนริมทางส่วนใหญ่สร้างขึ้นด้วยไม้ไผ่หลังคามุงด้วยหญ้าคา ท่ามกลางวิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวเชียงตุง
ครั้งหนึ่ง … เมืองเชียงตุงเคยเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศไทยนะครับ ช่วงนั้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุคจอมพล ป. พิบูลสงคราม ดำรงเป็นนายกรัฐมนตรี โดยกองทัพไทยได้ยกพลเข้ามายึดเมืองเชียงตุงจากอังกฤษ แล้วประกาศให้เป็นจังหวัดหนึ่งของไทยในชื่อ "แคว้นสหรัฐไทยเดิม" โดยไทยปกครองเชียงตุงได้อยู่เพียง 3 ปี ไทยก็ต้องคืนเชียงตุงให้กับอังกฤษ ในฐานะฝ่ายชนะสงคราม และรวมดินแดนเชียงตุงเป็นส่วนหนึ่งหนึ่งของเมียนมา และเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เอง หลังจากที่เมียนมาเปิดประเทศ ก็ทำให้เมืองเชียงตุงเป็นที่รู้จักแก่สายตานักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น และทำให้เรารู้เลยว่า … พูดตรงๆ เดินชมเมืองเชียงตุง กาลเวลาไม่อาจทำลายเอกลักษณ์ความเป็นเชียงตุงไปได้เลย

น้องเณร 2 คนนี้ อยากกินน้ำหวานสีๆ ตามประสาเด็ก

รอยยิ้มของป้าคนนี้ เหมือนรอยยิ้มที่ใจดีของคนเชียงใหม่ ยิ้มแบบใจดี อยากคุย แต่คุยไม่รู้เรื่อง ส่งภาษามือก็แล้ว เอาเป็นว่า ขนมครกของป้าอร่อยมากครับ

เราขับผ่านวัดมหาเมี๊ยะมุนี แต่ไม่ได้ลงไปสักการะนะ เพราะที่จอกรถไม่อำนวย อีกอย่างขบวนของเรามากัน 10 กว่าคัน ถ้าไปหาทางจอดคงจะสร้างความวุ่นวายกัยเมืองเค้าไม่น้อย ซึ่งเราเองก็ไม่อยากไปเป็นปัญหา เพราะเมืองเค้าก็สงบดีอยู่แล้ว เอาเป็นว่าเสพความสวยงามด้วยสายตา และเก็บภาพเอาไว้เป็นที่ระลึกก็พอ ...


น้องเณรคนนี้ ยังไงก็คือเด็ก อยากเล่นเกมส์ก็มาแอบเล่น มันก็เป็นมุมที่น่ารักไปอีกแบบ ...



ขับรถชมเมืองเชียงตุง สภาพของตึกรามบ้านช่อง และร้านต่างๆ มีลักษณะคล้ายๆ กับหลายๆจังหวัดแถบภาคเหนือของเรา เน้นความเรียบง่าย บ้านส่วนใหญ่จะเป็นแบบชั้นเดียว ใช้สีที่สะอาดตา ประตูและหน้าต่างบานใหญ่ ข้างทางดูแลดี สะอาด ไม่มีขยะ บางที่จะดูดีกว่าบ้านเราด้วยซ้ำไป

ตำนานสร้าง วัดพระธาตุจอมคำ เดิมมีชื่อว่าวัดพระธาตุจอมสร้าง เจ้าจันทรสิกขะและฤาษี4 ตนเป็นผู้ร่วมกันสร้าง มีอายุประมาณ1,200 กว่าปี ตามประวัติพระธาตุเจดีย์ที่สร้างขึ้นนี้มีจุดประสงค์เพื่อประดิษฐานพระเกศาที่ตกทอดมาจากตุงคฤาษี ยอดเจดีย์ทำจากทองคำแท้บริสุทธุ์.องค์พระเจดีย์ สูง226 ฟุต กว้าง84 ฟุต ประดับด้วยเพชรพลอย882 เม็ด ของจริงที่อยู่ตรงหน่า สวยงามมาก ไม่รู้จะอธิบายยังไงให้เห็นภาพ


สิ่งที่รู้สึกชอบ และรู้สึกทึ่งมากก็คือพื้นไม้ที่อยู่ในวัด เหยียบลงไปแล้วมีความรู้สึกเย็นแบบแปลกๆ มันเย็นมาก เหมือนเหยียบหินอ่อน แต่นี่คือไม้ ไม่รู้เหมือนกันว่า ทำไมถึงเย็นได้ขนาดนี้


หน้าวัดจอมสัก ก่อนเดินทางออกจากเมืองเชียงตุง มุ่งหน้าสู่ด่านแม่สาย ประเทศไทย ภาพท้ายสุด ในประเทศพม่า ...



เส้นทางขากลับจากเชียงตุง เข้าไปที่ด่านแม่สายประเทศไทย ระยทางประมาณ 217 กิโลเมตร สภาพเส้นทางจะเป็นเขา แต่ไม่หนักเท่าเมื่อวาน ขับกันได้แบบสบายใจ เพลินๆ ชมวิวข้างทางไปเรื่อย เวลาเหลือเยอะ เลยไม่ต้องเร่งรีบ สำหรับทริปนี้สนุกมาก ขับกันเต็มที่ ขับครบทั้ง 3 รุ่น ขับกันแบบที่เรียกว่ากลับมาแล้วยังจำระบบได้หมด ไปเป็นเซลล์ได้เลย รับรองขายรถได้แน่นอน

รูปนี้ถือว่าเป็นรูปสุดท้ายของทริปนี้จริงๆ เพราะถ่ายกันบนสะพานข้ามตรงด่านแม่สาย อยู่ครบกันทุกคน ถือว่าเป็นทริปที่สนุกมาก และมีความสุขกับการเดินทางมากในเวลาเดียวกัน ขอบคุณท่านผู้บริหารของนิสสันทั้ง 2 ท่าน ที่มาร่วมเดินทางในทริปนี้ โดยเฉพาะ คุณปีเตอร์ ที่อยู่ด้วยกันตลอดทั้งทริป ลุยแค่ไหน เหนื่อยแค่ไหนก็จะมีแตารอยยิ้มบนหน้าของ คุณปีเตอร์ ตลอด เรียกได้ว่ายิ้มเก่งกว่าคนไทยอีก ... ต่อมาอยากขอบคุณทีมงานนิสสัน ทั้ง โป่ง เบนซ์ และ เอ ที่ดูแลดีงามตลอดทริป เรียกว่าอบอุ่น ใจถึง พึ่งพิงได้ ตลอดการเดินทาง อีกส่วนหนึ่งก็คงจะเป็นทีมกลอลิร่า ที่เป็นออแกนไนเซอร์ในงานนี้ ต้องบอกว่าทีมนี้ดูแลดีทุกคน เข้าถึงตัวสื่อมวลชนได้โดยที่ไม่ร้องเรียกหา เข้าประกบตลอดแบบมือปืน อุ่นใจครับ สุดท้ายจะไม่พูดถึงไม่ได้ คงจะเป็นทีม DRIVE OUT ของพี่โด่ง ที่ครบถ้วนในทุกความต้องการของการเดินทางในครั้งนี้ ดูแลแบบหมดจด ทุกกรณี ไม่มีตกหล่น บอกเลย คำเดียวสั้นๆ มืออาชีพครับ

กลับมาถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ ความยังรู้สึกยังค้างอยู่เลย ยังสนุกอยู่กับการขับรถ ท่องเที่ยว ไปในที่ซึ่งเราไม่เคยไป ไปเห็นวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากตัวเราเคยเห็น ไปสัมผัสอีกรูปแบบของการใช้ชีวิตที่เราไม่เคยสัมผัส การได้ออกไปขับรถเที่ยวแบบนี้ คือการสร้างการรับรู้ใหม่ให้กับชีวิต และยังสร้างมุมมองใหม่ๆในการใช้ชีวิตได้อีกด้วย ขอบคุณนิสสัน ขอบคุณประเทศไทย ขอบคุณประเทศพม่า ที่ให้โอกาสออกไปใช้ชีวิตที่สนุกแบบนี้ ขอบคุณครับ ...