• ไปเที่ยวเมียนมาร์ก๊าน
• พร้อมเดินทาง
ประชาคมอีซูซุจากทั่วประเทศ ร่วมท่องเที่ยวคาราวานครอบครัวแบบทริปเดียวจบ ครบทุกรส กับเส้นทางที่ 3 “อีซูซุ คาราวานสัญจร 2019” คาราวานท่องเที่ยวระหว่างประเทศไทย (กาญจนบุรี) – ประเทศเมียนมาร์ (ทวาย) นำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 25 คัน ขับรถท่องเที่ยวในรูปแบบคาราวานทางรถยนต์สู่เมืองทวาย ฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ของเมียนมาร์ แหล่งรวมอารยธรรมที่ยังคงไว้ซึ่งความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ชมวิถีชีวิตและศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์ วัดวาอารามอันเก่าแก่ และพระเจดีย์องค์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองทวายอันงดงาม
• สตาร์ทที่ บริษัท อีซูซุกาญจนบุรี จำกัด
สมาชิกคาราวานนัดพบกัน ณ บริษัท อีซูซุกาญจนบุรี จำกัด โดยมี คุณปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานกาญจนบุรี มิสเตอร์เอช คาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์-บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ให้การต้อนรับและตีธงปล่อยคาราวานทั้ง 25 คันา ประกอบด้วยรถอีซูซุมิว-เอ็กซ์ ขับเคลื่อน 4 ล้อ และขับเคลื่อน 2 ล้อ รถอีซูซุดีแมคซ์ ไฮแลนเดอร์ และรถอีซูซุดีแมคซ์ วี-ครอส 4x4
• มิสเตอร์เอช คาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์-บี ตรีเพชรอีซูซุเซลส์
• คุณปิยพัชร์ วงศ์โดยหวัง
คาราวานมุ่งสู่ด่านพุน้ำร้อน (ประเทศไทย) ซึ่งห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรี ราว 1 ชั่วโมง ไปยังด่านติกิ (ประเทศเมียนมาร์) มุ่งหน้าสู่เมืองทวาย ดินแดนทางฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของเมียนมาร์ ด้วยระยะทางเพียง 170 กิโลเมตร แต่ใช้เวลาเดินทางกว่า 8 ชั่วโมง เนื่องจากอยู่ในช่วงฤดูฝน ต้องพบกับอุปสรรคของเส้นทางทั้งดินโคลน หลุมบ่อจำนวนมากที่ถูกน้ำฝนกัดเซาะ ตลอดจนต้องผ่านเขาช้างร้อง ที่สูงชัน และคดโค้งหลายช่วง น้ำท่วมบางเส้นทาง
• ขึ้นเขาคดโค้ง
• ฝนตกทางแฉะ
• มีน้ำท่วมบางช่วง
จบทริปวันแรกด้วยงานเลี้ยงอันแสนอบอุ่น ประทับใจ พร้อมการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของชาวเมืองทวายในชื่อชุด “เสน่ห์ตะนาวศรี” โดยมีการแสดง “ระบำหม้อน้ำ” เป็นไฮไลท์
• เพลินๆกันไปในช่วงงานเลี้ยง
• ระบำหม้อน้ำ
เช้าวันต่อมา คาราวานอีซูซุได้ท่องเที่ยวในเมืองทวาย แห่งแรกที่ไปคือวัดชินตาเลียว (Reclining Buddha of Dawei) หรือพระนอนเมืองทวาย เป็นพระนอนองค์ที่ใหญ่ที่สุดในมณฑลตะนาวศรี และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศเมียนมาร์ มีความยาวถึง 74 เมตร สูง 21 เมตร อายุเกือบ 100 ปี เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพาน โดยสังเกตได้จากเท้าของพระพุทธรูปจะสร้างแบบเสมอกัน
• พระนอนเมืองทวาย
พระนอนองค์นี้ตามประวัติเล่าว่า มี 1 ในพระ 14 รูปแห่งเมียนมาร์ที่เก่งมาก สามารถท่องพระไตรปิฏกได้ มาสร้างไว้ และจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งนี้ ต่อมาเพื่อระลึกถึงเจ้าอาวาสท่านนี้ ชาวบ้านจึงได้นำพระไตรปิฎก 3 เล่มบรรจุไว้ใต้เศียรของพระพุทธรูป
วัดต่อมาคือ “วัดชินเต๊าป่ง” (Shin Taunk Pone Pagoda) เป็น 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวทวายเลื่อมใส คำว่า เต๊าป่ง หมายถึง มากองแล้วฝังเอาไว้ การเดินทางไปวัดนี้ต้องนั่งรถสองแถวจากด้านล่างขึ้นไปประมาณ 10 นาที เนื่องจากตั้งอยู่บนเนินเขาสูง 2,000 กว่าฟุต มีทิวทัศน์ที่สวยงาม สามารถชมวิวเมืองทวายทั้งหมดได้จากระเบียงวัด แต่น่าเสียดายที่คณะคาราวานได้พบแต่ละอองฝน และหมอกหนา เนื่องจากฝนตกหนัก
• วัดชินเต๊าป่ง
วัดแห่งนี้ตามตำนานเล่าว่าพระมเหสีในอดีตได้ยินว่าจะมีพญานกยูงสีทองมาเดินเล่นในป่า พระองค์อยากได้มาเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ราชวังของตน จึงสั่งให้นายพรานฝีมือดีไปตามล่า นายพรานวิ่งตามไปจนถึงเนินเขา แต่ปรากฏว่าไปเจอพระอรหันต์แทนนกยูง พระท่านเทศนาจนนายพรานเกิดเห็นธรรม จึงเอาธนูและข้าวของฝังไว้พร้อมสร้างเจดีย์ขึ้นมา หลังจากนั้นนายพรานจึงออกบวช
• ที่ตลาด Mingalar หรือตลาด 100 ปี
จุดหมายต่อมาคือการหาซื้อของฝากจากเมืองทวาย ที่ตลาด Mingalar หรือตลาด 100 ปี ซึ่งตลาดนี้จะมีสินค้าหลากหลายให้เลือกซื้อ ไม่ว่าจะเป็นผงทานาคาสำหรับประทินผิวของสาวๆ ถั่วตัดของอร่อยขึ้นชื่อของประเทศเมียนมาร์ กุ้งแห้งอันเลื่องชื่อ และผ้าพื้นเมืองที่เป็นลวดลายเฉพาะ มีขายแค่ที่เมืองทวายเท่านั้น จากนั้นก็แวะเติมพลังมื้อกลางวัน ณ ร้านกุหลาบ ซึ่งตั้งอยู่ภายในสนามกอล์ฟเมืองทวาย
• ในวัดชินเต๊าเถ่ง
เดินทางต่อไปยังวัดชินเต๊าเถ่ง (Shin Tauk Htein) 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมียนมาร์เลื่อมใส ตั้งอยู่บนเนินเขาในหมู่บ้านเล็กๆ ใกล้ตัวเมืองทวาย ภายในอุโบสถมีพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ที่ชาวบ้านศรัทธามาแต่โบราณ ตำนานเล่าว่ามีเกษตรกร 2 สามีภรรยา ไปขุดเนินนี้แล้วเจอพระพุทธรูปอายุประมาณ 1,000 ปี จึงสร้างวัดขึ้นมาตรงจุดที่พบพระพุทธรูป ชาวเมียนมาร์เชื่อว่าท่านเป็นพระพุทธรูปมีชีวิต เพราะมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมจนถึงปัจจุบันมีขนาดใหญ่ขึ้น 5 นิ้ว และบางครั้งสีตาของพระพุทธรูปก็เปลี่ยนไปจากปกติ เชื่อกันว่าเมื่อมาที่นี่สามารถขอให้ได้ฌาน มองอนาคตได้ และบรรลุในธรรม
• วัดเมียวยิต บนเกาะลอย
วัดที่ 4 ของทริปนี้คือ “วัดเมียวยิต” (Myaw Yit Pagoda) ที่เกาะลอย Se Pin เป็นวัดหนึ่งของทวายที่มีพื้นที่ตั้งอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ติดชายทะเลฝั่งอันดามัน มีสะพานปูนทอดยาวไปยังเกาะที่เป็นที่ตั้งของวัดเมียวยิต และเจดีย์เมียวยิต นักท่องเที่ยวจะเห็นชายหาดยาวเรียบทะเล มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งอยู่บนโขดหินก่อนเข้าถึงวัดเมียวยิต ด้านในวัดเมียวยิตมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และเจดีย์อีกมากมาย วัดนี้จึงเป็นวัดที่นักท่องเที่ยว และชาวเมียนมาร์มาสักการะเป็นจำนวนมาก เพราะนอกจากจะศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้เห็นวิวสวย ๆ ริมทะเลอันดามัน
• กุ้งเป็นกุ้งเลย ตัวใหญ่เกิ๊น
จากนั้นจึงเดินทางไปรับประทานอาหารค่ำ ณ ร้าน Bamboo Garden อิ่มอร่อยกับอาหารทะเล กุ้งล็อบสเตอร์ตัวโตจากทะเลทวาย สร้างความประทับใจให้กับผู้ร่วมคาราวานเป็นอย่างยิ่ง
อีกสถานที่ที่พลาดไม่ได้เลย “วัดชเวตองซา” ร่วมสักการะพระเจดีย์ชเวตองซา (Shwe Taung Sar Zedi) วัดสำคัญของเมืองทวาย มีองค์พระเจดีย์ที่ใหญ่และสูงที่สุดในเมืองทวาย จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากอง เมืองย่างกุ้ง ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปโลกะมารชินปางมารวิชัย อายุ 140 กว่าปี
• วัดชเวตองซา และพระเจดีย์ชเวตองซา
วัดแห่งนี้ก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.2304 มีอายุมากกว่า 250 ปี มีพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุโบราณต่างๆ มากมาย เช่น ปืนใหญ่สมัยกรุงศรีอยุธยา พระพุทธรูปสำริดศิลปะแบบไทย และดาบสมัยโบราณ ชาวทวายนิยมมาไหว้พระขอพรยามค่ำคืน จบทริปแบบอิ่มบุญ อิ่มใจกันถ้วนหน้า
ปิดท้ายด้วย “วัดชินดะเวย” (Shin Dat Wae Pagoda) อีก 1 ใน 9 วัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมียนมาร์เลื่อมใส วัดแห่งนี้เป็นวัดที่มีขนาดใหญ่และสวยงามที่สุดของเมืองทวาย มีประวัติยาวนานกว่าพันปี นับเป็นการปิดท้ายทริปได้อย่างประทับใจ
• จบข่าว
ติดตามเรื่องราวความสนุกของ “อีซูซุคาราวานสัญจร” ประจำปี 2019 ใน เส้นทางสุดท้ายภาคใต้ ได้ที่ www.isuzu-tis.com