ลองขับ NEW MG EXTENDER ตะลอนไปในหลายรูปแบบ
รณชิตได้รับชวนให้ไปลงนวมซักซ้อมการขับรถกระบะ NEW MG EXTENDER DC 2.0 GRAND 4WD X 6AT ที่โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อนสี่ล้อ จังหวัดนครนายก ซึ่งมีเนินมีหลุมให้กระด็อกท็อกแท็กไปหลายสถานีตามสไตล์การใช้งานรถแบบลุยๆพองามตามท้องเรื่อง
คุณพงษ์ศักดิ์ เลิศฤดีวัฒนวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย)
คุณป้าป้อม-สุกานดา เจ้าภาพที่สนามสปิริทแอดเวนเจอร์ นครนายก
รถรุ่นนี้ใช้เครื่องยนต์ Diesel 2.0 DOHC 16 Valve Turbo Intercooler เทอร์โบเลือกใช้งาน GARRETT ที่เป็นแบบแปรผัน ระบบจ่ายน้ำมัน Common Rail Direct Injection พร้อมด้วย ECU เป็นของ BOSCH ด้วยเช่นกัน ได้แรงม้าออกมา 161 ตัว แรงบิด 375 นิวตันเมตร ซึ่งเพียงพอต่อการใช้งาน ระบบเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ปรับรูปแบบการขับขี่ได้ทั้ง ECO และ POWER เพื่อตอบสนองทุกการใช้งาน
รถทดสอบไปกัน 5 คัน
เราไปกันในรุ่น Double Cab ยะครับ ที่มีจำหน่ายทั้งแบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) และขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) ซึ่งมีโหมดการขับขี่ให้เหมาะกับสภาพถนน 3 รูปแบบ คือ 2H, 4H และ 4L โดยระบบเกียร์ 4x4 นี่ ได้เลือกใช้งานของ BORGWARNER ส่วนระบบช่วงล่างด้านหน้าเป็นอิสระปีกนกคู่ ด้านหลังเป็นแบบแหนบซ้อนแผ่น ระบบดิสก์เบรกหน้า และหลัง พร้อมช่องระบายความร้อนเฉพาะด้านหน้า ขนาดล้อ 18 นิ้ว ยาง 255/60 R18
เนินต่างระดับซ้ายขวา
ช่วงล่างให้ตัวได้ดี
ต้องบอกว่า ทาง MG เลือกใช้ของดี และเป็นของที่ใช้กันในรถกระบะทั่วโลก วางใจได้ในเรื่องของสมรรถนะ และความทนทาน และตอบสนองการใช้งานได้อย่างครบถ้วน
เข้าคิวปีนเนินสูง
ดำน้ำระดับ 70 มม.
สำหรับสถานีทดสอบ มีทั้งเนินสลับซ้าย-ขวา เดินหน้าลุยกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ BORGWARNER พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในส่วนของกำลังเครื่องยนต์ก็เพียงพอ สามารถพาตัวรถผ่านสถานีไปได้แบบสบายๆ
รณชิตได้เบอร์ 2 สีแดง
ปั่นสาหร่ายมาเต็มให้ท้อง
สำหรับสถานีทดสอบ มีทั้งเนินสลับซ้าย-ขวา เดินหน้าลุยกับระบบขับเคลื่อนสี่ล้อของ BORGWARNER พร้อมระบบล็อคเฟืองท้าย ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ในส่วนของกำลังเครื่องยนต์ก็เพียงพอ สามารถพาตัวรถผ่านสถานีไปได้แบบสบายๆ
รอบโชว์พาวลุยน้ำ
ในทางขรุขระที่ทำให้เรารู้สึกถึงประสิทธิภาพของช่วงล่าง การสั่นสะเทือนจากสภาพเส้นทางนั้นส่งมาสู่ห้องโดยสารไม่มากนัก เป็นไปตามการขับขี่ในรูปแบบออฟโรด ที่รู้สึกได้อีกอย่างคือ การให้ตัวของช่วงล่างทั้งหน้าและหลังที่ยืดหยุ่น มาจากการเซ็ทช่วงล่างให้ตอบสนองการใช้งานในรูปแบบออฟโรดได้ดี
รอบโชว์พาวบนบก
ในสถานีเนินสูง ช่วงขับขึ้นเราได้ลองระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System) ซึ่งก็ทำงานได้อย่างมั่นใจ ให้การออกตัวในมุมเอียงไม่มีอาการลุ้น การไต่ขึ้นเนินสูงกำลังของเครื่องยนต์ที่มีมาให้ใช้งานพอตัว สามารถขึ้นไปได้อย่างสบายๆ แบบไม่ต้องเค้น พอช่วงลงเนินก็ได้ลองระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน HDC (Hill Descend Control System) ทำงานให้ขับรถลงเนินได้อย่างปลอดภัย
ไปดำฝุ่นในทางขรุขระ ไร่ผู้พัน
ลุยกันต่อด้วยบ่อน้ำที่เต็มไปด้วยโคลน จุดนี้เราใช้ตำแหน่ง 4H ซึ่ง NEW MG EXTENDER ก็สามารถลุยผ่านไปได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นกำลังของเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลังที่เหมาะสมกับสภาพเส้นทาง ช่วงล่างที่ปรับเซ็ทมาได้อย่างลงตัว ระบบบังคับควบคุมที่ขับง่าย ส่งผลให้สามารถผ่านอุปสรรคไปอย่างสบายๆ
คันของรณชิตนำขบวน
สำหรับทางเรียบ ที่ขับไปกลับกรุงเทพฯ-นครนายก NEW MG EXTENDER มีอัตราเร่งช่วงต้นต่อเนื่องใช้ได้ มีเหี่ยวลงไปในช่วงรอบเครื่องยนต์เกือบ 3 พัน และเนือยๆ ไปจนสุดในแต่ละเกียร์ โดยรวมอาจไม่ดุดันแบบเครื่องยนต์ความจุมากๆ แต่ก็พอตัวและเพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ได้เทอร์โบแปรผันของ GARRETT มาช่วยก็เลยรู้สึกว่ามีกำลังต่อเนื่องดี การทำงานของระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติลูกนี้ทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ได้ลงตัว การเปลี่ยนเกียร์ต่อเนื่องดี
จบภารกิจการลุย
มาถึงจุดเบรกที่เราต้องหยุดรถให้จอดสนิท เพื่อดูประสิทธิภาพของเบรก ระบบเบรกที่เป็นแบบดิสก์ทั้ง หน้า-หลัง ถือว่าตอบสนองดี การเบรกทำได้นุ่มนวลดี ระยะเบรกมองด้วยตาเปล่าถือว่าสั้นและมั่นใจ ส่วนของตัวรถก็ไม่มีอาการเป๋หรือแถออกด้านข้างแต่อย่างใด จากการได้ลองขับ NEW MG EXTENDER ในครั้งนี้ บนทางเรียบถือว่าเป็นรถที่ขับง่าย กำลังเครื่องยนต์กับระบบเบรกดีพอตัว ช่วงล่างปรับเซ็ทมาเหมาะกับเมืองไทย ส่วนบนทางลุยระบบขับเคลื่อนที่เลือกใช้ของดีมีประสิทธิภาพ ก็เลยตอบสนองการใช้งานในรูปแบบออฟโรดได้ดีและเพียงพอกับทุกการใช้งาน ระบบกันสะเทือนโดยส่วนตัวคิดว่าปรับเซ็ทมาให้เหมาะสมกับบ้านเราแล้ว กับราคาที่ค่อนข้างใสกว่าคู่แข่ง และบริการหลังการขายที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาดรถกระบะที่น่าสนใจเลยทีเดียว นะจ๊ะ
ชมวิวก่อนกลับบ้าน