มิตซูบิชิ แถลงผลงานปี 62 ยอดรวม 88,244 คัน โตขึ้น 4.4% พร้อมส่วนแบ่งตลาด 8.8%
มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด
บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แถลงยอดจำหน่ายรถยนต์ในปี 2562 ปิดยอดจำหน่ายรถยนต์ทุกเซ็กเม้นท์ ที่ 88,244 คัน โต 4,4% มีส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 8.8 โดยมิตซูบิชิ ไทรทันมียอดขายอันดับหนึ่ง 35,807 รองมาเป็น มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ 16,196 คัน มิตซูบิชิ ปาเจโรสปอร์ต ตามมาอันดับสาม 13,558 คัน ส่วนอีโคคาร์ มิราจและแอททราจ มียอดขายรวมกันที่ 22,683คัน!!สำหรับปีนี้มิตซูบิชิคาดว่ายอดขาดรถยนต์รวมน่าจะลดลงแต่ มิตซูบิชิ เองจะพยายามคงส่วนแบ่งการตลาดไว้ให้ได้ไม่ต่ำกว่าเดิมพร้อมลงทุน7พันล้านบาทปรับปรุงโรงงานแหลมฉบังให้ทันสมัยสามารถรองรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ในอนาคตรวมถึงรองรับไลน์การผลิตรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดในปี2564และเพิ่มโชว์รูมให้เป็น245แห่ง!!! สำหรับช่วงแรกของปีนี้เดือนมกราคมที่ผ่านมามิตซูบิชิสามารถสร้างยอด จำหน่ายได้กว่า 6,000 คัน
มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ไม่เพียงเติบโตเหนือกว่าอุตสาหกรรมโดยรวมในปี 2562 แต่ยังประสบความสำเร็จท่ามกลางสภาพตลาดที่มีความท้าทายและมีการแข่งขันกันสูง รวมทั้งสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวส่งผลต่อตลาดในประเทศและการส่งออก ในปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้เปิดตัวรถใหม่เพื่อนำเสนอความทันสมัยและน่าสนใจอย่างต่อเนื่อง ทั้ง มิตซูบิชิ ไทรทัน ใหม่ รุ่นโลว์ไรเดอร์ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ มิตซูบิชิ แอททราจ ใหม่ และ มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ รวมถึง มิตซูบิชิ ไทรทัน แอทลีท ใหม่
รถที่มียอดจำหน่ายสูงสุดของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย คือ มิตซูบิชิ ไทรทัน มียอดจำหน่ายที่ 35,807 คัน หรือ ร้อยละ 41 ของยอดจำหน่ายทั้งหมด ขณะที่ มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ มียอดจำหน่ายสูงสุดเป็นอันดับสองที่ 16,196 คัน หรือ ร้อยละ 18 ขณะที่ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ต ใหม่ ซึ่งเปิดตัวในปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายที่ 13,558 คัน หรือ ร้อยละ 15 สำหรับรถซิตี้คาร์ มิตซูบิชิ แอททราจ และ มิตซูบิชิ มิราจ ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องด้วยยอดจำหน่ายรวม 22,683 คัน หรือ ร้อยละ 26
ด้านการส่งออก มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ครองตำแหน่งผู้ส่งออกรถยนต์อันดับ 1 โดยสามารถส่งออกรถยนต์รวมทั้งสิ้น 332,700 คัน ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) 284,500 คันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 48,200 คัน โดยในปี 2562 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังได้ฉลองความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ครบ 4 ล้านคัน สำหรับการผลิตในปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย สามารถผลิตรถยนต์รวมทั้งสิ้น 407,200 คัน ประกอบด้วยรถยนต์สำเร็จรูป (BU) 353,500 คันและรถยนต์ชิ้นส่วนประกอบ (KD) 53,700 คัน
นอกจากผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพแล้วปัจจัยสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนความสำเร็จ ได้แก่ การพัฒนาเครือข่ายผู้จัดจำหน่ายและการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า โดยในปีที่ผ่านมา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย มีเครือข่ายผู้จำหน่ายจำนวน 229 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ และยังได้เปิดตัวไลฟ์สไตล์โชว์รูมแนวคิดใหม่ เพื่อมอบความพึงพอใจและประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้า พร้อมเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย
ด้านบริการหลังการขายที่มีลูกค้าเป็นศูนย์กลางภายใต้สโลแกน “เราดูแล คุณแค่ขับ” มอบความมั่นใจให้แก่ลูกค้าในราคาที่ไม่แพง ด้วยคุณภาพสินค้าและบริการที่ดี อะไหล่แท้ที่ตอบโจทย์ การบริการโดยผู้เชี่ยวชาญที่ผ่านการฝึกฝนอบรม การดูแลและเข้าใจในสินค้าและการบริการ เพื่อมอบความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ตลอดจนการเข้าถึงบริการและเครือข่ายผู้จำหน่ายได้อย่างสะดวกสบาย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังดำเนินกิจกรรมอื่น ๆ ที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีแก่ลูกค้า ได้แก่ กิจกรรมมิตซูบิชิ แฮปปี้ แฟน มิตซูบิชิ แฮปปี้ เฟสติวัล มิตซูบิชิ โรดโชว์ อเวคเคนนิ่ง แบงค็อก ซึ่งเป็นเทศกาลแสดงแสงสีและศิลปะผสมผสาน ตลอดจนกิจกรรมอื่น ๆ ที่จัดขึ้นร่วมกับผู้จำหน่าย
พร้อมกันนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากร โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือการมอบผลิตภัณฑ์และการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้สถาบันการศึกษาและฝึกอบรม หรือ EA คือศูนย์กลางการดำเนินงานเพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ โดยในปีที่ผ่านมาทางบริษัทฯ ยังได้ลงทุนเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนรู้ผ่านระบบการจัดการการฝึกอบรม (TMS) และระบบการเรียนรู้ออนไลน์ (e-Learning) เพื่อบรรลุเป้าหมายการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดให้มากกว่าร้อยละ 9 ในปี 2563 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังคงมุ่งเน้น 3 ปัจจัยแห่งความสำเร็จ ได้แก่ 1) การให้ความสำคัญกับลูกค้า 2) การปรับปรุงพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย และ 3) การพัฒนาบุคลากร โดยยกระดับการดำเนินงานของ
ผู้จำหน่ายสู่มาตรฐานขั้นสูงอย่างต่อเนื่อง พร้อมปรับภาพลักษณ์โชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศให้เป็นไปตามมาตรฐานระดับโลกของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ด้วยอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อส่งมอบประสบการณ์เหนือระดับให้แก่ลูกค้าในทุกช่องทาง พร้อมกับขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายเพิ่มเป็น 245 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับด้านการผลิต บริษัทฯ จะเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้วยการสร้างโรงพ่นสีแห่งใหม่ พร้อมปรับปรุงการปฏิบัติงานในขั้นตอนเชื่อมตัวถังและขั้นตอนการประกอบ โดยมีแผนการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ และระบบอัตโนมัติมาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับคุณภาพ ประสิทธิภาพ และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในกระบวนการผลิตอีกด้วย
ปิดท้ายด้วยการวางแผนผลิต Mitsubishi Outlander PHEV รถ SUV ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่โรงงานผลิตในแหลมฉบังภายในปี 2564 ด้วย โดยใช้เงินลงทุนมากกว่า 3,130 ล้านบาท ควบคู่ไปกับการส่งเสริมผู้ผลิตชิ้นส่วนภายในประเทศด้วยการจัดหา และใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศเป็นหลัก
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มิตซูบิชิ ประเทศไทย ติดต่อมิตซูบิชิ คอลเซ็นเตอร์ 02-079-9500 วันจันทร์ – วันอาทิตย์ 8:30 – 17:00 น. หรือเว็บไซท์ www.mitsubishi-motors.co.th แฟนเพจ facebook.com/MitsubishiMotorsTH