บูเอมี และโรว์แลนด์ ในรถเบอร์ที่ 23 และ 22 ตามลำดับ จะแสดงสมรรถนะของเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าที่ไร้มลพิษในฤดูกาลที่เจ็ดของการแข่งขันรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ทั้งนี้ ทีม นิสสัน อี.แดมส์ คว้าที่สองในการแข่งขันของฤดูกาลปี 2019 – 2020 โดยคว้าชัยมาได้หนึ่งครั้ง ขึ้นโพเดี้ยมอีกห้าครั้ง รวมถึงตำแหน่ง โพล โพซิชั่น (pole position) โดย บูเอมีเผยว่ารู้สึกพึงพอใจกับความเร็วที่เขาทำได้ในรอบคัดเลือกโดยได้ตำแหน่งโพลถึง 6 ครั้ง ในขณะที่โรว์แลนด์ ได้รับชัยชนะครั้งแรกในการแข่งขันสุดท้ายของฤดูกาล
ทั้งนี้ มิตซูโนริ ทากาโบชิ (Mitsunori Takaboshi) ยังคงทำหน้าที่นักขับทดสอบและนักขับสำรองให้กับทีมต่อไปเช่นเดียวกับยานน์ มาร์เดนโบโรห์ (Jann Mardenborough) อดีตแชมป์ รายการ นิสสัน จีที อคาเดมีจะยังทำหน้าที่ นักขับทดสอบในเครื่องซีมูเลเตอร์อย่างเป็นทางการของทีมอีกด้วย
นิสสันเป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นรายแรกที่ลงแข่งฟอร์มูล่า อี เข้าร่วมครั้งแรกในปี 2018 โดยนิสสันก้าวเข้าสู่การแข่งขันนี้เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ของเทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจ้นท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) และนำความตื่นเต้นเร้าใจของรถยนต์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงแก่แฟนๆ รถแข่งทั่วโลก สำหรับฤดูกาล 2020-2021 จะเป็นฤดูกาลที่สามของนิสสัน และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บริษัทฯ จะเริ่มผลิต นิสสัน อริยะ ใหม่ รถยนต์เอสยูวีครอสโอเวอร์ไฟฟ้า (all-new Nissan Ariya electric crossover SUV) และตรงกับช่วงฉลองครบรอบ 10 ปีของการเปิดตัว นิสสัน ลีฟ รถยนต์ไฟฟ้าคันแรกของโลกที่จำหน่ายในเชิงพาณิชย์