มร. เออิอิชิ โคอิโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัล Corporate Sustainability Award สะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาและแนวทางบริหารความยั่งยืนของเรา มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมากว่า 61 ปี และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาและการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนของประเทศ มาโดยตลอด นอกเหนือจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าแล้ว เรายังมีความมุ่งมั่นที่จะทุ่มเทเพื่อสร้างสังคมไทยให้ดีขึ้น บริษัทฯ จึงตั้งเป้าส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาวทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของประเทศ ผ่านการดำเนินธุรกิจบนหลักสำคัญ 7 ประการ ได้แก่ การจ้างงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การลงทุน การถ่ายทอดเทคโนโลยี การส่งออก การสนับสนุนช่วยเหลือสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งการส่งเสริมสังคมไทยในด้านต่างๆ เหล่านี้ คือ เหตุผลสำคัญในการดำเนินธรุกิจของเราในประเทศไทย”

 

 

มร. เออิอิชิ โคอิโตะ (ที่ 3 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด รับรางวัลที่โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ (InterContinental Bangkok Hotel) พร้อมด้วย นายเอกอธิ รัตนอารี (ที่ 3 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานทรัพยากรบุคคลและบริหารทั่วไป, นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ (ที่ 2 จากซ้าย) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานขายบริการหลังการขาย และการพัฒนาเครือข่ายผู้จำหน่าย, มร. ชิน คุโบะ (ที่ 2 จากขวา) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานกลยุทธ์องค์กร, มร. อาราตะ ทาคาฮาชิ (ซ้ายสุด) ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายงานกลยุทธ์การตลาด, และ มร. เออิจิ โอกาวะ (ขวาสุด) กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานผลิต

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้กำหนดเป้าหมายเพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยมุ่งสู่การเป็นสังคมคาร์บอนสมดุล โดยความพยายามของบริษัทฯ ได้นำไปสู่การดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ทั่วประเทศ โดยหนึ่งในกิจกรรมดังกล่าว ได้แก่ การเปิดโรงงานพ่นสีระดับชั้นนำของโลกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพื่อนำเสนอการพ่นสีรถยนต์ด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน การผลิตรถยนต์ของบริษัทฯ มีสัดส่วนการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ ในอัตราที่ค่อนข้างสูงมาก โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์หลักของเรา อาทิ มิตซูบิชิ ไทรทัน มิตซูบิชิ มิราจ และมิตซูบิชิ แอททราจ ใช้ชิ้นส่วนในประเทศมากกว่า 90% อีกทั้งยังผลิตรถยนต์ไฟฟ้าปลั๊กอินไฮบริด เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ในประเทศ ตั้งแต่ปี 2563 อีกด้วย

 

 

 

ทั้งนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เป็นผู้ผลิตและส่งออกรถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยเป็นรายแรก เมื่อปี 2531 และยังคงเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ของประเทศไทยไปยังกว่า 120 ประเทศ โดยในบรรดารถยนต์รุ่นเรือธง บริษัทฯ ได้เปิดตัวรถยนต์ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี ซึ่งเป็นรถเอสยูวีปลั๊กอินไฮบริด ที่มีสมรรถนะการขับขี่สูงและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จากการศึกษาการประเมินการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตามวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ (Life Cycle Assessment – LCA) พบว่า รถยนต์ประเภทปลั๊กอินไฮบริด เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดเพื่อ

 

 

 

 

การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เมื่อพิจารณาปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เฉพาะจากปลายท่อไอเสียรถยนต์ แต่หมายรวมถึงทั้งกระบวนการการผลิตทั้งหมด รถยนต์รุ่นดังกล่าว ผลิตที่โรงงานในแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ที่มีการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปีละ 6,100 ตัน

เพื่อสานต่อความมุ่งมั่นและเติบโตเคียงข้างสังคมไทย ในปี 2563 มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้จัดตั้งมูลนิธิมิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย (Mitsubishi Motors Thailand Foundation: MMTF) ในฐานะองค์กรที่ไม่แสวงหากำไร ด้วยเป้าหมายของการสร้างประโยชน์แก่สังคมไทย ใน 3 ด้านหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม สุขภาพ และการศึกษา เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย และผลักดันประเทศสู่ความสำเร็จของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมอย่างต่อเนื่อง ตามปณิธานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม “สรรค์สร้าง เคียงข้าง สังคมไทย” โดยโครงการล่าสุด คือ ความร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและพลังงาน ในการสร้างโรงพยาบาลเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการติดตั้งแผงโซลาร์ หรือระบบไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่โรงพยาบาลชุมชนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ ‘Solar for Lives: พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อชีวิตที่ดีกว่า’ นอกจากนี้ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ยังมุ่งมั่นส่งเสริมความเท่าเทียมกันด้านการศึกษาในสังคมไทยผ่านหลายโครงการ อาทิ โครงการ ‘มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ให้น้องได้เรียน’ ผ่านกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) โครงการ MMTh VTECH Scholarship Program รวมถึงมอบโอกาสฝึกงานกับบริษัทฯ ให้กับเยาวชนไทยอีกด้วย

 

 

 

 

ปัจจุบัน มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ได้สร้างการจ้างงานแล้วมากกว่า 6,300 ตำแหน่ง ครอบคลุมกระบวนการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ตั้งแต่ซัพพลายเออร์ ไปจนถึงเครือข่ายผู้จำหน่าย โดยสถาบันการศึกษาและฝึกอบรม มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2561 ทำหน้าที่ฝึกอบรมพนักงานของผู้จำหน่ายเพื่อพัฒนาความรู้ด้านบริการและทักษะเฉพาะทาง เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

โครงการ Thailand Top Company Awards จัดขึ้นโดยนิตยสาร Business Plus ในเครือ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยเริ่มดำเนินโครงการมาตั้งแต่ปี 2556 เพื่อมอบรางวัลให้แก่องค์กรธุรกิจที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่า มีผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยมและสร้างประโยชน์ต่อสังคมอย่างสม่ำเสมอ โดยจะมีการประเมินผลบริษัทด้วยใช้ตัวชี้วัดคุณภาพธุรกิจหลักและการวิเคราะห์ข้อมูลโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แบ่งรางวัลออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ รางวัลผลการดำเนินงานยอดเยี่ยมในแต่ละประเภทอุตสาหกรรม และรางวัลตามความเป็นเลิศในแต่ละสาขา เช่นสาขาด้านการบริหารงานที่โดดเด่น สาขาด้านกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ สาขาด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และอื่น ๆ เป็นต้น