“คำสัญญาสำคัญกับเราเสมอ”

สวัสดีค่ะ พบกันอีกครั้งกับการเดินทางสายอาสา ของทีมงาน INDY KEMAO CLUB หลังจากห่างหายไประยะหนึ่งเราก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง กับกิจกรรมดีๆของกลุ่มเรา เป็นการรวมตัวของพี่ๆน้องๆ สหาย INDY ประจวบเหมาะพอดีมีทุนอยู่ก้อนหนึ่ง ได้มาจากเงินที่พี่ๆน้องๆ บริจาคมาให้ทำกิจกรรมในครั้งครบรอบ 3 ปี ของกลุ่ม INDY ในเมื่อทุนยังเหลือ เราจึงเลือกเดินทางกลับไปหาน้องๆ โรงเรียนเพียงหลวง 3 สาขาพระธาตุโบอ่อง อ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี

เหตุผลที่เลือกกลับไปที่โรงเรียนนี้ ก็ด้วยเรื่องการเดินทางของน้องๆ และชาวบ้านหมู่บ้านนี้ มีความลำบากในการเดินทาง จะเข้าออกต้องใช้เวลาเป็นวัน ต้องใช้แพ หรือ เรือ ในการสัญจรไปมา ซึ่งบางคนอาจจะมองว่า สถานที่แห่งนี้ก็ไม่ต่างไปกับที่อื่นๆ แต่กลุ่มอินดี้ รู้สึกถึงความแตกต่างและรับรู้ถึงความลำบากของน้องๆ ตรงที่ว่าน้องๆที่อาศัยอยู่ที่นี่ จะได้ออกไปเห็นแสงสี ออกมาเดินตลาด ก็แทบจะไม่มีโอกาสเลย


พ่อแม่ต้องทำไรทำสวน บางคนก็ใช้ชีวิตที่อาศัยอยู่ในแพ ถึงวันเรียนก็มาส่งลูกไว้ที่โรงเรียนและพักอยู่ที่โรงเรียน อาทิตย์หนึ่งได้กลับไปหาพ่อแม่ก็แค่วันสองวัน หากจะให้พากันออกไปข้างนอก ก็ต้องมีค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมันในการเดินทาง ค่าจ้างเรือเข้าออก หากท่านผู้อ่านติดตามกลุ่มอินดี้ จะรู้ว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 -4 แล้ว ที่อินดี้เข้าไปทำกิจกรรมที่หมู่บ้านนี้ นำสิ่งของ อุปกรณ์ต่างๆ และไปทำอาหารกลางวันเลี้ยงน้องๆ เพียงแค่อยากให้น้องๆได้กินในสิ่งที่ไม่ค่อยได้กิน ได้ทำในสิ่งที่ไม่เคยได้ทำ และได้ดูในสิ่งที่ไม่ค่อยจะได้ดู จากนั้นเราจึงกำหนดวันเดินทาง





ค่ำคืนของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 จัดเตรียมสิ่งของมากมาย ขึ้นท้ายกระบะ ครั้งนี้สมาชิกมากันคนละทิศละทาง ปลายทางพบกันที่สวนสาธารณะหลังตลาดอำเภอทองผาภูมิ กว่าจะเดินทางมาถึงจุดหมายก็ใกล้สว่างแล้ว เราก็หาที่นอนกันง่ายๆ นอนในรถบ้าง ผูกเปลนอนบ้าง งีบหลับกันประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ได้เวลาตื่น อากาศเย็นกำลังสบาย มีหมอกบางๆ ล้างหน้าแปรงฟัน เสร็จต้องรีบไปจ่ายตลาดหาอะไรรองท้องกันก่อน เช้านี้เรานัดสมาชิกลงแพกันประมาณ 8.30 น.ซึ่งเราต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม อย่าให้ขาด เพราะเราจะหาซื้อที่ไหนไม่ได้แล้ว




เมื่อซื้อของครบ ช่วยกันยกขึ้นรถ มุ่งหน้าท่าแพ ที่อยู่ห่างจากตลาดไม่เท่าไหร่ เราช่วยกันยกของลงแพ แล้วมีผิดพลาดนิดหน่อย กัปตันเรือลืมของสำคัญ ต้องกลับไปเอา ทำให้ออกจากท่าแพช้ากว่าปกติ ในขณะที่อยู่บนแพก็เก็บภาพต่างๆระหว่างเดินทางลอยล่องไป ส่วนพ่อครัวแม่ครัวก็จัดเตรียมวัตุดิบสำหรับทำอาหารไว้ เมื่อถึงฝั่งก็ช่วยกันยกของขึ้นจากแพ คุณครูและเด็กๆ มารอรับเราพร้อมหน้า ช่วยกันขนของขึ้นรถอีแต็ก





ชุดแรกให้พ่อครัวไปจัดเตรียมปรุงอาหารก่อน มื้อกลางวันนี้เราเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวไก่ ได้รับการสนับสนุนจาก “พี่เสือลิตร บ้านโป่ง” ระหว่างรอน้ำก๋วยเตี๋ยวเดือด น้องๆก็เริ่มหิวกันกันแล้ว นึกขึ้นได้เรามีเค้กโบราณไปด้วย แจกน้องๆกินรองท้องกันก่อนแล้วกัน น้องๆกินกันอย่างเอร็ดอร่อย พี่อินดี้ ยังแอบชิมด้วยเลย ไม่นานเกินรอ ก๋วยเตี๋ยวไก่ ก็พร้อมเสิร์ฟน้องๆ กินของคาวเสร็จ ตามด้วยของหวาน น้ำแข็งไสหวานเย็นชื่นใจส่ายนมเยอะ ปิดท้ายด้วย “ไอติมเหย่า” เหย่าจนเป็นแท่งสีสันสดใส น้องเล็กๆก็กินไปเล่นไป ส่วนพี่ใหญ่ก็ไปเรียนวาดภาพกับ อาจารย์พรชัย กลุ่ม “พู่กันสัญจร” ครั้งนี้สอนวาดภาพด้วยสีน้ำ โดยวาดสิ่งที่มองเห็นอยู่ตรงหน้า คือ พระธาตุโบอ่อง


ประมาณบ่าย 3 โมงเย็น ครัวเที่ยงปิด ช่วยกันเก็บล้าง เตรียมครัวเย็น มื้อเย็นมีราดหน้า ผัดมาม่า และมีหนังฉายให้น้องๆได้ดู ระหว่างรอน้องๆมารวมตัวกันตอนเย็น พี่ๆขอไปกระโดดน้ำเล่น ดูพระอาทิตย์ตกดินกันหน่อยนะคะ เห็นน้ำใสๆแล้วอดใจไม่ได้จริงๆ คุณครูชายขับรถออกไปส่ง เล่นกันจนหนำใจแล้ว ก็วิทยุเรียกให้คุณครูออกมารับ ประมาณ 6 โมง น้องมากันครบ เตรียมตัวกินมื้อเย็น และดูหนังกลางแปลง เกิดผิดพลาดนิดหน่อย เครื่องฉายขัดข้อง ด้วยสภาพที่เก่า และไม่ได้ใช้เป็นเวลานาน เลยต้องเข้าไปดูกับโทรทัศน์ในห้อง แต่ความสนุกก็ไม่แพ้กันนะ ไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เสียงหัวเราะดังออกมาจากห้อง ท่าทางจะสนุกสนานน่าดู นานๆทีน้องๆที่นี่จะได้ดูหนังกับเค้าบ้าง เนื่องจากที่นี่ไม่มีไฟฟ้า แสงไฟที่เห็น มาจากเครื่องปั่นไฟทั้งนั้น




ระหว่างที่น้องๆดูหนัง เราก็มีมันฝรั่งทอด เน็คเก็ต ลูกชิ้น ให้กินจนหนังจบ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านคนนั้น ส่วนพี่ๆ พอน้องๆกลับกันหมดก็ได้เวลาเสวนาตามประสา เงยหน้าขึ้นมาอีกทีก็จะตี 3 ละ ดาวเต็มท้องฟ้าเลย แยกย้ายกันเข้านอน ช่วงเช้าไม่ได้มีกิจกรรมอะไร ตื่นมาก็กาแฟคนละแก้ว ตามด้วยข้าวต้มนักเลง (กุ๊ย) กินเสร็จเก็บของเตรียมตัวกลับขึ้นฝั่ง




แต่เดี๋ยวก่อน คุณครูเดินมาบอกว่า ทางโรงเรียนจะกล่าวขอบคุณ กับพี่ๆที่มาทำอาหารเลี้ยงน้องๆ และชาวบ้านในครั้งนี้ เหมือนเดิมคำกล่าวลาของน้องๆเล่นเอาน้ำตาซึมกันเป็นแถบๆ แถมคำปิดท้ายของน้องๆ ที่ฝากถึงพี่ๆ ว่า “หากมีโอกาสกลับมาหาพวกหนูอีกนะคะ-ครับ” เพราะคำนี้แหละ เราทุกคนจึงกลับไปหาน้องๆ อีกหลายครั้ง และพบกันบนเส้นทางของอินดี้และเพื่อนๆใหม่นะคะ..สวัสดีค่ะ