ปัจจุบัน ผู้ผลิตรถยนต์ได้ปูทางเทคโนโลยีไปสู่ระบบคมนาคมขนส่งที่ชาญฉลาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น ตัวอย่างหนึ่งที่ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี คือ รถยนต์ที่มาพร้อมระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (Autonomous Emergency Braking: AEB) ซึ่งมีอยู่ใน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ไทเทเนียม พลัส, ฟอร์ด เรนเจอร์ ไวลด์แทรค, ฟอร์ด มัสแตง 5.0L GT และ 2.3L Ecoboost ระบบนี้ช่วยผู้ขับขี่หลีกเลี่ยงการชน หรืออย่างน้อยก็เพื่อลดความรุนแรงเมื่อเกิดการชนที่ด้านหน้า

หน่วยงานประกันความปลอดภัยบนทางหลวงจากสหรัฐอเมริกา (Insurance Institute for Highway Safety: IIHS) เผยว่า ระบบแจ้งเตือนการชนด้านหน้าและเบรกอัตโนมัติ หรือที่รู้จักกันดีในตลาดรถยนต์ในนาม ระบบ AEB สามารถลดการเสียชีวิตและอาการบาดเจ็บจากการชนได้ โดยระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนน สามารถลดการชนที่ด้านหน้าและการชนท้ายได้ถึง 56% นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังสามารถลดการบาดเจ็บของคนที่อยู่ในรถอีกคันได้ถึง 23%

ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติพร้อมระบบตรวจจับคนเดินถนนของฟอร์ด ผสานการทำงานของกล้องและเรดาร์แบบคลื่นมิลลิเมตรในการตรวจจับและระบุความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นบนท้องถนน ในขณะที่เรดาร์ตรวจจับสิ่งกีดขวางระยะไกลที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว เช่น ยานพาหนะ กล้องจะตรวจจับภาพ เช่น คนที่ผ่านไปมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เมื่อระบบตรวจจับสิ่งกีดขวางที่อยู่ข้างหน้า จะส่งสัญญาณเตือนไปยังคนขับด้วยเสียงและไฟกระพริบ ในขณะเดียวกัน ระบบก็จะเตรียมเบรกเพื่อการหยุดรถอย่างรวดเร็ว และหากผู้ขับขี่ตอบสนองช้า เทคโนโลยีการเบรกอัตโนมัติจะทำงานโดยทันที ซึ่งสามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนหรือลดแรงกระแทกได้

ผลการสำรวจในประเทศออสเตรเลีย ฟอร์ด พบว่าผู้ขับขี่มักเกิดความเครียดเมื่อพบคนปั่นจักยานบนถนน โดยมีผู้ขับขี่เกือบครึ่งที่แสดงออกเชิงลบต่อคนปั่นจักรยานขณะที่ขับรถ สถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายในรูปแบบดังกล่าวแสดงให้เห็นความสำคัญของระบบ AEB ที่สามารถตรวจจับและตอบสนองต่อสิ่งกีดขวางได้ นอกจากนี้ วิศวกรของฟอร์ดยังได้ทำการวิจัยและทดสอบเพื่อให้ระบบสามารถตรวจจับสิ่งขีดขวางในรูปแบบต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ คนเดินถนน (เด็กและผู้ใหญ่) หรือคนปั่นจักรยานได้ ทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน